กอ.รมน.ภาค 4 สน. รายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบยิง อส.ทพ.หญิง เสียชีวิต พื้นที่ตลาดดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 28 มี.ค.67 ที่ผ่านมา

373

          เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 เวลา 10.00 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับ สถานีตำรวจภูธรจะแนะ ประสานการปฏิบัติกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 บังคับใช้กฎหมาย เชิญผู้ต้องสงสัย จากกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน ขนาดปืน 9 มิลลิเมตร ยิงอาสาสมัครทหารพรานหญิงนูรีซัน พรหมศรี เสียชีวิตในพื้นที่ตลาดดุซงญอ หมู่ที่ 2 ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายมุซตากินร์ อาหวัง ที่อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 5 ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส (เชิญตัวไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41) และ นายซุลกิฟลี เด็ง ที่อยู่บ้านเลขที่ 19/1 หมู่ที่ 5 ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส (เชิญตัวไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46) จากการตรวจค้นวัตถุพยานที่บ้านพัก มีรายละเอียดการตรวจยึด ดังนี้

  1. เสื้อยืดกีฬา สีดำ ยี่ห้อ RYU จำนวน 1 ตัว
  2. รองเท้าแตะ แบบสวม สีดำ จำนวน 1 คู่
  3. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA สกู๊ปปี้ ทะเบียนป้ายแดง สหมิตร 232 จำนวน 1 คัน
  4. ผ้าโสร่ง สีเขียว จำนวน 1 ตัว
  5. โทรศัพท์ มือถือ ยี่ห้อ ViVo รุ่น Y21 จำนวน 1 เครื่อง
  6. เสื้อยืดสีเทา หมายเลข 9 จำนวน 1 ตัว
  7. รองเท้าแตะ แบบสวม จำนวน 1 คู่
  8. นาฬิกาดิจิตอล จำนวน 1 เรือน
  9. ผ้าโสร่ง สีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว
  10. โทรศัพท์ มือถือ ยี่ห้อ Apple รุ่น IPHONE 4 จำนวน 1 เครื่อง

รายละเอียดเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบต่อไป

          ทั้งนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พูดคุยและสร้างความเข้าใจแก่ครอบครัวและญาติของผู้ต้องสงสัยให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่รวมทั้งให้ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด  และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิดหรือบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถโทรเข้ามาแจ้งได้ที่หน่วยงานความมั่นคง หรือหมายเลขสายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือสายตรง แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  โทร 061 – 1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และขอเรียนให้ทราบว่าการให้ที่พักพิงหรือหลบซ่อนตัวแก่ผู้กระทำผิด เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้ที่พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า