เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา เวลา 09.56 น. เกิดเหตุคนร้าย จำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน เป็นพาหนะ ใช้ระเบิดชนิดแสวงเครื่องแบบขว้าง (ไปป์บอมบ์) จำนวน 2 ลูก ปาเข้าใส่บริเวณร้านกาแฟอเมซอน (Café Amazon) ภายในปั้มน้ำมัน ปตท. ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านนัดฆอมิส หมู่ที่ 5 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี แรงระเบิดทำให้กระจกบริเวณร้านการแฟดังกล่าว ได้รับความเสียหาย และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 รายดังนี้
- นายสอบรี เปาะซู อายุ 54 ปี ตำแหน่ง นายก อบต.น้ำดำ อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ที่ 4 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี มีบาดแผลเล็กน้อยและมีอาการแน่นหน้าอก,หูอื้อ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
- ด.ช.อีลยัส กะลาแต อายุ 2 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/1 หมู่ที่ 1 ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี มีบาดแผลบริเวณศีรษะ และมีอาการแน่นหน้าอก, หูอื้อ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
- นางซูร์ยานา ยูโซะ อายุ 34 ปี (มารดา ของ ด.ช.อัลยัสฯ) อยู่บ้านเลขที่ 83/1 หมู่ที่ 1 ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี มีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
- ส.ต.ต.อนิรุช เกาะกลาง อายุ 22 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ทุ่งยางแดง อยู่บ้านเลขที่ 112/1 หมู่ที่ 6 ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง มีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
โดยพฤติกรรมการก่อเหตุคนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน เป็นพาหนะ ขับขี่มาตามถนนสายชนบท บริเวณด้านหลังของปั้มน้ำมัน ปตท. จากนั้นคนร้ายได้ใช้ระเบิดแสวงเครื่อง แบบขว้าง (ไปป์บอมบ์) ปาข้ามกำแพงปั้มน้ำมันเข้ามา จำนวน 2 ลูก ตกบริเวณร้านกาแฟอเมซอน โดยระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง (ไปป์บอมบ์) เกิดระเบิด 1 ลูก และไม่ทำงานอีก 1 ลูก แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าทำการปิดกั้นพื้นที่ และประสาน เจ้าหน้าที่ชุด EOD ดำเนินการเข้าตรวจสอบและเก็บกู้ ซึ่งต่อมาเมื่อเวลา 11.35 น. ขณะรอเจ้าหน้าที่ชุด EOD เข้าตรวจสอบเก็บกู้ ระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง (ไปป์บอมบ์) ลูกที่ไม่ทำงาน ได้เกิดระเบิดขึ้น แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า กลุ่มผู้ไม่หวังดีมีพยายามที่จะก่อเหตุมุ่งทำร้ายชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นทำลายต่อความน่าเชื่อถือของระบบเศรษฐกิจ บรรยากาศการท่องเที่ยว ตลอดจนระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ในพื้นที่ซึ่งกำลังมีแนวโน้มที่ดี และที่สำคัญยังเป็นการทำลายบรรยากาศในห้วงเทศกาลรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่อีกด้วย
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดย พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร็วที่สุด และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนร่วมกันแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยต่อการกระทำที่ใช้ความรุนแรง หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิดหรือบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถแจ้งได้ที่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ หรือ หมายเลข 1341 สายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หรือสายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลข 061 – 1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า