แม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจเยี่ยมแนวชายแดน ด่านสะเดา ติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ Covid -19 ในระลอกที่ 2

943

     เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.30 น. ที่ หลักเขตแดนที่ 17/4 ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์  แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดน พร้อมติดตามความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid – 19 โดยมี พลตรี ศานติ  สกุนตนาค ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่​ 5 / ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี, นายชวกิจต์  สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา, เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5, ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ทหาร ตำรวจ ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน, เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ และส่วนที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และตรวจพื้นที่ตลอดแนวชายแดน

     ในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้พบปะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ พร้อมมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ให้เจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ พร้อมทำหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองทั้งช่องทางธรรมชาติและทางอ้อม พร้อมป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid -19 ในระลอกที่ 2

     พลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า สถานการณ์ Covid – 19 ที่เพิ่มขึ้นในประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะรัฐเคดาห์ ที่ติดกับแนวชายแดน ซึ่งมีพี่น้องประชาชนคนไทยที่ไปใช้แรงงานในประเทศมาเลเซีย อยากจะเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทย เราเป็นห่วงในส่วนของการเข้ามาตามแนวชายแดน ไม่ว่าจะเป็นแรงงานต่างด้าว หรือชาวไทย ที่อยากกลับเข้ามาในประเทศไทย ฉะนั้นในสถานการณ์ Covid – 19 ที่ระบาดขึ้นในระลอกที่ 2 จากประเทศเพื่อนบ้าน เราต้องมีการป้องกันอย่างเข้มงวด วันนี้นอกเหนือจากตั้งใจมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่ทำหน้าที่เข้าตรวจตามแนวชายแดนตามมาตรการป้องกัน covid – 19 เราได้เน้นย้ำว่าในสถานการณ์ปัจจุบันต้องมีความเข้มข้นเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบข้ามแดนเข้ามา หรือถ้ามีการเล็ดลอดเข้ามา ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการ Local Quarantine กักตัว 14 วัน ตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดไว้ โดยต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น โดยที่ผ่านมาทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกัน ทั้งภาครัฐ ซึ่งประกอบด้วยกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ที่สำคัญคือพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือและเป็นหูเป็นตา บอกกล่าวถึงความผิดปกติของผู้คนตามแนวชายแดน โดยในห้วง 3 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ Covid – 19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หยุดชะงักลงอย่างสิ้นเชิง แต่ในวันนี้ในระลอกที่ 2 ที่เกิดขึ้นในประเทศมาเลเซีย จากเดิมสถิติเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อประมาณ 270 กว่าคน แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 1,000 กว่าคน ซึ่งถ้าหากเราไม่ร่วมด้วยช่วยกันเหมือนครั้งที่ผ่านมา อาจจะมีส่วนหนึ่งส่วนใดเกิดการลักลอบเข้ามา ก็อาจจะทำให้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อ Covid – 19 ไปด้วย

     พร้อมกันนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำ ให้เจ้าหน้าที่ทุกนาย รวมทั้งพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันสอดส่องดูแลพื้นที่อย่างเข้มงวด หากพบเห็นผู้ลักลอบเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้ารัฐอย่างเร่งด่วน หรือแจ้งสายด่วน 1341 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid – 19 ที่เกิดขึ้นในระลอกที่ 2 อีกด้วย

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า