เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 เวลา 09.30 น. ที่ศาลาสมเด็จพระสุริโยทัย ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 เป็นประธานในพิธีอำลาธงชัยเฉลิมพล ของทหารกองประจำการ รุ่นปี 2564 ผลัดที่ 1 หน่วยขึ้นตรงกองพลทหารราบที่ 15 จำนวน 341 นาย ซึ่งจะปลดประจำการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ในการนี้ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ได้มอบประกาศเกียรติคุณรางวัลให้กับทหารกองประจำการที่มีความประพฤติและวินัยดีเยี่ยม พร้อมทั้งกล่าวให้โอวาท แสดงความยินดี และยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อวยพรให้ประสบความสำเร็จในสิ่งอันพึงปรารถนา โดยในพิธี มีพระสงฆ์ปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นศิริมงคล แก่กำลังพล ผู้แทนทหารกองประจำการที่จะปลดจากกองประจำการกล่าวอำลาผู้บังคับบัญชา และพิธีสวนสนามอำลาธงชัยเฉลิมพล และผู้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นพิธีอันทรงเกียรติ ที่ทรงคุณค่า สร้างภาคภูมิใจแก่เหล่ากำลังพลน้องๆทหารที่จะปลดจากกองประจำการ ซึ่ง “ธงชัยเฉลิมพล” เป็นธงประจำหน่วยทหารที่ถือได้ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด อันเป็นเกียรติของหน่วยทหาร เมื่อเวลาเข้าสู่สงครามทหารทั้งปวงต้องปกป้องพิทักษ์รักษาธงชัยเฉลิมพลของหน่วยตนไว้ด้วยชีวิต “ธงชัยเฉลิมพล” จึงเป็นเครื่องนำความองอาจ กล้าหาญ ของทหารทั้งปวง ให้เข้าต่อสู้ข้าศึกศัตรู เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ
โดยพลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ได้กล่าวอวยพรให้ทหารกองประจำการทุกนาย ประสบความสำเร็จหลังจากประจำการ และเชื่อว่าพวกเค้าเหล่านี้จะกลับไปดูแลครอบครัว นำประสบการณ์ความรู้ที่ได้จากการฝึกฝนในรั้วครอบครัวกองทัพบก ไปสานต่อปกป้องดูแลบ้านเกิดมาตุภูมิ และพร้อมกลับมาเป็นหน่วยสนับสนุนภารกิจปกป้องชาติบ้านเมืองต่อไปในอนาคต สำหรับพิธีดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้พลทหารกองประจำการที่จะปลดประจำการ ได้รู้สึกเป็นเกียรติ และภาคภูมิใจ ในการที่ตนได้เข้ารับราชการทหารครบตามกำหนด รวมทั้งเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมีระเบียบวินัย และยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความสามัคคี ความรัก ความเอื้ออาทร ของผู้บังคับบัญชาที่มีต่อพลทหารที่จะปลดจากกองประจำการ
ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 กล่าวว่า น้องๆ พลทหารที่จะปลดจากกองประจำการ ทุกนาย ตามกฎหมายทั่วไปกำหนดให้รัฐต้องมีกำลังไว้ เพื่อพิทักษ์เอกราช และความมั่นคงของรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์ และผลประโยชน์ของชาติ มีหน้าที่ป้องกันประเทศ รับราชการทหาร นับว่าพวกท่านทั้งหลาย ได้มีหน้าที่สำคัญยิ่ง ซึ่งชายไทยส่วนใหญ่ ไม่มีโอกาสแห่งความภาคภูมิใจ เช่นพวกท่าน การได้รับใช้ชาติด้วยการเป็น ทหารกองประจำการ ซึ่งถือว่าเป็นการทำหน้าที่ ของชายไทยได้สมบูรณ์แบบ ตลอดเวลา 2 ปี หรือน้อยกว่าสำหรับบางคน ที่ทุกท่านต้องเหนื่อยยาก ต้องใช้ความอดทน แต่พวกท่านได้พิสูจน์ ตนเองแล้วว่ามีความเป็นนักสู้ อย่างแท้จริง ตลอดเวลาพวกท่านส่วนใหญ่ ได้ปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัยที่ดียิ่ง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น และในปัจจุบัน หน่วยเราได้รับภารกิจ ที่สำคัญยิ่ง คือ การปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ และมีเกียรติ เพื่อนเราบางคนต้องสละชีวิต เพื่อปกป้องผืนปฐพีนี้ไว้นับเป็นวีรบุรุษของชาติ อย่างแท้จริง การปลดประจำการวันนี้ ไม่ใช่เป็นการปลดภาระหน้าที่ ในการป้องกันประเทศ ลักษณะวิธีปฏิบัติที่แตกต่างออกไป และประเทศของเรายังมีภัยคุกคามหลายด้าน ทั้งจากภายนอกประเทศและภายในประเทศ ทั้งในเรื่องยาเสพติดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ หรือกลุ่มก่อการร้าย ข้ามชาติต่างๆ ซึ่งพวกเราสามารถให้การช่วยเหลือ เช่น ด้านการข่าว ด้านการประชาสัมพันธ์ที่ถูกต้อง การเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อกิจกรรมส่วนรวม เป็นต้น จึงขอให้ท่านรำลึกถึงภาระหน้าที่นี้ตลอดจนนำความรู้ ประสบการณ์ที่ได้รับระหว่างการเข้ามารับราชการในครั้งนี้ ไปใช้ประโยชน์ ในการดำรงชีวิต ส่วนตนและส่วนรวม ด้วยการประกอบอาชีพที่สุจริต เป็นคนดีของสังคม เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ บ้านเมือง สืบไป
ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า