ผู้ก่อเหตุรุนแรง ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุด รปภ.พระ ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่และและพระสงฆ์ ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย

          เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 เวลา 06.20 น. คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร ชุดรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ สังกัด กองร้อยทหารพรานที่ 4603 ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ออกบิณฑบาตจากวัดไพโรจน์ประชาราม เหตุเกิดบริเวณปากซอยเจริญราษฎร์ 2 บ้านปลายนา หมู่ที่ 2 ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารและพระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย

          หลังเกิดเหตุ พันเอก สิทธิชัย  บำรุงเขต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบที่โค่นต้นไม้ใหญ่ปากซอยเจริญราษฎร์ 2 ซึ่งอยู่ด้านซ้ายมือของร้านมุสลิมรือเสาะการเกษตร ที่เป็นที่ตั้งของถังบรรจุน้ำสีฟ้า ขนาดถังบรรจุ 1,000 ลิตร ที่ใช้เป็นภาชนะในการจัดเก็บและขนส่งของเหลวแบบมีขาเหล็กกระเด็นไปขวางอยู่กลางถนน ส่วนโคนต้นไม้ที่คนร้ายแอบนำระเบิดของซุกไว้ ที่มีถังน้ำพลาสติกขนาดต่าง ๆ ทั้งสีขาว สีน้ำเงิน และสีเหลืองวางอยู่ ถูกอนุภาพของระเบิดจนพื้นปูนซิเมนต์แตกกระจายเป็นวงกว้าง โดยมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบ ในถังแก๊สหุงต้ม น้ำหนักรวมประมาณ 50 กิโลกรัม ลักษณะต่อวงจรจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร สะเก็ดตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนเป็นรัศมีกว้าง 150 เมตร นอกจากนี้บริเวณฝั่งตรงกันข้ามกับจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นร้านค้าและบ้านเรือนของประชาชน ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย จำนวน 3 หลัง และมีรถยนต์ของประชาชนที่จอดอยู่ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย 2 คัน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ

          สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ ประกอบด้วย อาสาสมัครทหารพราน ไชยชิต  นามเขตต์ ถูกสะเก็ดระเบิดเฉี่ยวที่บริเวณศีรษะ, อาสาสมัครทหารพราน ศรีสุวรรณ์  ท๋าจุม มีอาการหูอื้อและแน่นหน้าอก, พระฉัน แสนศิลา (ฉันทโก), พระอำนวย เข็มศิริ (วรปัญโญ) และ พระดี ทองอยู่ (ปัญญาธโณ) ซึ่งทั้ง 3 รูป เป็นพระลูกวัดไพโรจน์ประชาราม ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 5 ราย ได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส

          ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยยกระดับการควบคุมพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมทั้งให้เร่งรัดตรวจพิสูจน์หลักฐานจากเหตุระเบิด ดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด และขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร 061 – 173 – 2999 และเบอร์สายด่วน 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้องค์กรที่เคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ร่วมกันประณามและต่อต้านการกระทำอันโหดร้ายและไร้มนุษยธรรม เป็นการกระทำต่อพระสงฆ์ผู้บริสุทธิ์ โดยมุ่งหวังให้เกิดความสับสนและความแตกแยกในสังคม

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า