ตามที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 6 จุดในคืนวันที่ 14 เมษายน 2566 โดยเฉพาะการลอบวางระเบิดรางรถไฟบริเวณสะพานเหล็ก เส้นทางระหว่างสถานียะลา ถึง สถานีไม้แก่น บริเวณบ้านนัดโต๊ะโมง หมู่ที่ 4 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ทำให้รางรถไฟได้รับความเสียหาย รวมถึงการใช้อาวุธปืนยิงใส่ที่ทำการสถานีรถไฟโคกโพธิ์และหม้อแปลงไฟฟ้าหน้าสถานีรถไฟทำให้ที่ทำการได้รับความเสียหายและเกิดกระแสไฟฟ้าดับบริเวณสถานี โดยเหตุที่เกิดขึ้น ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ทำให้การเดินรถไฟสายใต้ตั้งแต่สถานีรถไฟยะลาถึงสถานีรถไฟรามันไม่สามารถเดินรถได้ต้องใช้การขนถ่ายทั้งผู้โดยสารและสัมภาระไปยังรถบัสที่ทางการรถไฟจัดเตรียมไว้ รวมทั้งขบวนรถไฟสายท้องถิ่นต้องหยุดให้บริการเป็นการชั่วคราว สร้างความยากลำบากให้แก่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะประชาชนระดับฐานรากที่ใช้บริการรถไฟเป็นยานพาหนะต้องได้รับผลกระทบจากการก่อเหตุ และต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปโดยสารยานพาหนะทางเลือกอื่น เป็นการเพิ่มภาระซ้ำเติมประชาชนผู้หาเช้ากินค่ำ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้พยายามสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงก่อนเดือนรอมฎอนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามหลักความเชื่อทางศาสนาที่ได้ถูกปลูกฝังอย่างผิดๆว่า หากก่อเหตุในห้วงเดือนรอมฎอนจะได้รับบุญมากเป็นพิเศษ รวมทั้งเป้าหมายของการก่อเหตุก็เพื่อสร้างความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ภาครัฐและพี่น้องประชาชนโดยไม่คำนึงว่าผู้ใดจะได้รับผลกระทบหรือความเดือดร้อน อีกทั้งยังเป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจ ภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นของรัฐบาลและสร้างความรู้สึกหวาดกลัวให้แก่พี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ ในการดำเนินการต่อผู้ก่อเหตุ กอ.รมน.ภาค 4 สน. จะใช้มาตรการทางกฎหมาย ด้วยการเก็บรวบรวมวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ภาพจากกล้องวงจรปิด และผลจากการพิสูจน์หลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป รวมทั้งจะยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ด้วยการบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน เสริมด้วยปฏิบัติการเชิงรุกเข้าตรวจสอบเฝ้าระวังพื้นที่ล่อแหลม พื้นที่เสี่ยง ดูแลเป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ เขตพื้นที่เมืองเศรษฐกิจ ระบบสาธารณูปโภคเป้าหมายอ่อนแอ รวมทั้งพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้สามารถประกอบศาสนกิจในห้วงเดือนรอมฎอนได้อย่างปลอดภัย
อีกทั้ง ปัจจัยที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการแก้ไขเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำเป็นที่จะต้องอาศัยความมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนโดยเฉพาะพี่น้องประชาชน หากพบเห็นเบาะแสผู้กระทำผิด หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถโทรแจ้งได้ที่หน่วยงานความมั่นคง หรือหมายเลขสายตรง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือหมายเลขโทรศัพท์สายตรงผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 0611732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสุขของพี่น้องประชาชนและความสงบอย่างยั่งยืนของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดไป
ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า