วันนี้ (12 ต.ค.63 ) วันนี้ เวลา 13.00 น. พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วย มอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานแก่กำลังเจ้าหน้าที่ พื้นที่จังหวัดสตูล สงขลา และนราธิวาส ประกอบไปด้วย ชุดปฏิบัติการจรยุทธ บ้านหาดทรายขาว ตำบลตันหยงโป อำเภอเมือง จังหวัดสตูล กำลังพลชุดเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ชุดปฏิบัติการจรยุทธ บ้านกัวลอต๊ะ ตำบลนานาค อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ตลอดจนส่วนราชการ และกำลังภาคประชาชน ในพื้นที่ เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงาน ในการควบคุมพื้นที่ตามแนวชายแดนในทุกมิติ เปิดแผนปฏิบัติการเชิงรุก ทั้งทางบก ทางลำน้ำ และทางอากาศ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในการเฝ้าระวังป้องกัน ทั้งการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย สินค้าหนีภาษี สินค้าทางการเกษตร ยาเสพติด ตลอดจนสกัดกั้น COVID-19 โดยกำชับกำลังทุกภาคส่วน คุมเข้มรักษามาตรการการควบคุมพื้นที่ ในการสกัดกั้นการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของบุคคลต่างด้าวบริเวณแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเฉพาะช่องทางผิดกฎหมาย/ช่องทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่อาจจะติดมากับคนลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่านกระบวนการคัดกรอง ซึ่งอาจมีขบวนการลักลอบนำพาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จึงต้องใช้กำลังทุกภาคส่วน ปฏิบัติการด้านการข่าวเข้าถึงข้อมูลในการนำมาขยายผล รวมไปถึงกำลังภาคประชาชน ในการเป็นหูเป็นตา ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อขยายผลกดดันบังคับใช้กฎหมายไปสู่การจับกุมกลุ่มขบวนการ และสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ ดังกล่าว เพื่อตัดต้นตอของการลักลอบนำพา
โดยแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ ได้ลงเรือสำรวจลาดตระเวรทางเรือตามแนวแม่น้ำโกลก ที่มีระยะทางครอบคลุม 3 อำเภอ ตั้งแต่ อ.แว้ง อ.สุไหงโก-ลก และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อตรวจสอบการวางกำลัง และสิ่งผิดปกติ ซึ่งตลอดเส้นทางมีเจ้าหน้าที่ตรึงกำลัง พร้อมระบบติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างช่วยในการมองเห็นแม้ในมุมอับได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดแนว โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการกำลังพลชุดป้องกันชายแดน เดินลาดตระเวนและซุ่มเฝ้าตรวจริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย คุมเข้มตรึงแนวตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการลักลอบการเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย และการลักลอบขนของผิดกฏหมายทุกประเภทเข้าสู่ประเทศ นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำกำลังพลทุกนายปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 อย่างเคร่งครัด ให้เป็นตัวอย่างที่ดีกับพี่น้องประชาชน โดยสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือ รักษาระยะห่างเพื่อป้องกันการกลับมาแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัส covid-19 ในประเทศอีกครั้ง
โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำและสั่งการต่อหน่วยว่า “ปัจจุบันสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้ก็คือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ของประเทศเพื่อนบ้านที่ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะต้องคุมเข้มเฝ้าตรวจการขนส่งของรถสินค้าเข้ามาประเทศไทย ตลอดจนการสกัดกั้นป้องกันแรงงานต่างด้าวที่ลับลอบเข้าเมือง ผ่านช่องทางตามแนวชายแดน ซึ่งมักจะมีกลุ่มนายหน้าทั้งฝั่งไทยและมาเลย์เซียดำเนินการนำเข้ามา ขอให้กำลังทุกภาคส่วน ประสานการทำงาน ดำเนินการกับกลุ่มนายหน้าดังกล่าว หากพบกรณีที่ว่ามาก็ขอให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยทันที แต่ให้คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม และมาตรการป้องกันโรค covid-19 ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ทั้งนี้หัวใจสำคัญ คือประชาชนในพื้นที่ตลอดแนวชายแดน ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวัง หากมีใครหลุดลอดเข้ามา ก็ขอให้แจ้งข่าว แจ้งเบาะแส มายังเจ้าหน้าที่ ฝากย้ำเตือนเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องตระหนัก การ์ดอย่าตก เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องเป็นแบบอย่าง ให้ประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้ ยอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศมาเลเซียเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเมื่อวานนี้พบผู้ติดเชื้อใหม่มากถึง 561 ราย ซึ่งทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดในประเทศมาเลเซียเพิ่มขึ้นเป็น 15,657 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย สรุปยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 157 ราย
ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า