นายกฯ ลง นราฯ เปิดแพขนานยนต์ขนส่งสินค้าทางเศรษฐกิจชายแดน ไทย-มาเลเซีย ฟื้นเศรษฐกิจการค้าชายแดนใต้

293

          วันที่ 15 มีนาคม 2566 ที่ ด่านศุลกากรตากใบ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลเอก ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี /โฆษกรัฐบาล และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดนราธิวาส สักการะพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล นมัสการพระเทพศีลวิสุทธ์ พระคู่เมืองนราธิวาส พร้อมกันนี้ได้เป็นประธานเปิดแพขนานยนต์ ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ก่อนพบปะหัวหน้าส่วนราชการทหารตำรวจผู้นำท้องที่ท้องถิ่นผู้นำศาสนาสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจพัฒนาพื้นที่แนวชายแดน มุ่งสู่การเป็นพื้นที่เป้าหมายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน

          โดยมี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้,นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส,นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส ส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่จากมาเลเซีย และประชาชนไทย-มาเลเซีย กว่า 1,000 คน เข้าร่วม พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำนวยความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด

          พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาส ถือเป็นอีก 1 จังหวัดในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ที่มีความพร้อมด้านทรัพยากรเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้การสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาพื้นที่และขับเคลื่อนการพัฒนาด้านต่างๆ ทั้งด้านคมนาคม ขนส่ง และระบบโลจิสต์ติกที่สำคัญ เพื่อสนับสนุน ภาคการเกษตร การค้า อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดนราธิวาส รวมถึงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ และปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำเพื่อการ อุปโภคบริโภค ขณะที่การเปิดใช้แพขนานยนต์ ลำใหม่ ครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความสําคัญ ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาสได้ดำเนินภารกิจด้านบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนในพื้นที่และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ในการอํานวยความสะดวกต่อการเดินทาง การขนส่งสินค้า และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ทั้งประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย  ซึ่งจะนําไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ก้าวหน้าต่อไป

          การให้บริการแพขนานยนต์ ที่ด่านศุลกากรตากใบเป็นงานบริการสาธารณะในความดูแลรับผิดชอบที่ อบจ.นราธิวาส ได้รับการถ่ายโอนมาจาก จ.นราธิวาส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 และให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยแพขนานยนต์ที่ให้บริการมีอายุมานานมากกว่า 20 ปี จึงมีสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการขาดความเชื่อมั่นในการใช้บริการที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังพบปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ที่ดับระหว่างข้ามฝากบ่อยครั้ง และมีน้ำท่วมใต้ท้องแพจากรูรั่วสภาพผุกร่อนของตัวแพ ทำให้แพขนานยนต์ต้องหยุดให้บริการ เพื่อซ่อมบำรุงรักษาอยู่เป็นระยะและมีความถี่ในการหยุดให้บริการบ่อยขึ้น กระทบโดยตรงต่อประชาชนผู้ใช้บริการ รวมถึงยอดนักท่องเที่ยวลดลง การค้าชายแดนชบเซา สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจในพื้นที่

          อบจ.นราธิวาส จึงได้อนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมประจำปีงบประมาณปี 2564 จำนวน 38,569,000 บาท ในการจัดสร้างแพขนานยนต์ลำใหม่ ทดแทนลำเดิม บรรจุผู้โดยสารได้ 30 คน บรรทุกยานพาหนะ รถยนต์ ขนาด 2,500กิโลกรัม/คัน ประมาณ 9 คัน และเพื่อให้มีแพขนานยนต์ที่ได้มาตรฐาน ให้บริการประชาชนทั้งสองประเทศ ส่งเสริมการค้าการลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โครงข่ายคมนาคมขนส่ง และโลจิสติกส์ สร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนในเขต จ.นราธิวาส ซึ่งจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวของประชาชนประเทศมาเลเซีย สู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น รองรับการพัฒนาในลักษณะพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษชายแดน  และด่านชายแดนตากใบแห่งนี้ที่มีแม่น้ำโก-ลก เป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทย ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ กับประเทศมาเลเซีย ด่านเป็งกาลันกูโบร์ รัฐกลันตัน ใช้เวลาในการเดินทางด้วยแพขนานยนต์ประมาณ 10 นาที เพิ่มความสะดวกในการสัญจรเป็นอย่างมาก

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า