เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 เวลา 09.30 – 16.00 น. สนามยิงปืน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15/ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมการยิงปืนเพื่อเพิ่มพูนทักษะ และประเมินผลการใช้อาวุธของสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ประจำปี 2566 เพื่อป้องกันตนเอง ครอบครัว และหมู่บ้าน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สู่ความสงบสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง ความชำนาญและเพิ่มขีดความสามารถในการ ป้องกันตัว จากการเผชิญเหตุ อีกทั้งเป็นการสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของชุมชน ให้กับสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน(อรบ.) เพิ่มเติมจากการเข้ารับการฝึก รวมถึงเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างพี่น้องสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน(อรบ.) ในแต่ละพื้นที่โดยใช้กิจกรรมการยิงปืนเป็นสื่อกลาง เป็นการเสริมสร้างความรักความสามัคคี และการอยู่ร่วมกันของสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน(อรบ.) ในพื้นที่ จชต. ตลอดจนเพื่อเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เกื้อกูล ลดความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง และช่วยให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ไม่ละทิ้งถิ่นฐาน ในการนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ได้ตรวจเยี่ยม กิจกรรมการยิงปืนเพื่อเพิ่มพูนทักษะ และประเมินผลการใช้อาวุธของพี่น้องสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน ( อรบ. ) พร้อมทั้งสาธิตการยิงปืนพกสั้นl ให้แก่พี่น้องสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน(อรบ.) ได้รับชม ตลอดจนให้คำแนะนำ กฎความปลอดภัยในการใช้อาวุธปืน การฝึกท่ายิง และการแก้ไขปัญหาติดขัดด้วยตนเอง เพื่อให้สามารถนำความรู้ที่ได้ ไปประยุกต์ปรับใช้ในการป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเป้าหมาย และในการแก้ไขปัญหากรณีถูกลอบทำร้าย สามารถใช้อาวุธประจำกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคล่องแคล่วต่อไป
ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า กิจกรรมการยิงปืนเพื่อเพิ่มพูนทักษะ และประเมินผลการใช้อาวุธของสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) ครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มพูนทักษะ เสริมสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน ให้มีความชำนาญ ในการใช้อาวุธ มีขีดความสามารถป้องกันตนเองได้ในระดับหนึ่ง รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ ให้กับสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน(อรบ.) อันจะนำไปสู่ ความร่วมมือ ร่วมใจ ความเป็นปึกแผ่น และความเสียสละ ในการช่วยกันดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน และชุมชน ไม่ละทิ้งถิ่นฐาน สร้างแรงจูงใจ เมื่อพื้นที่ปลอดภัยประชาชนจะกลับมายังถิ่นฐานเดิม การส่งเสริมช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชนใกล้เคียงทั้งชุมชนไทยพุทธและไทยมุสลิมจะนำไปสู่สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง โดยผลลัพธ์ที่ต้องการให้สมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน(อรบ.) มีการพัฒนาศักยภาพตนเองอย่างต่อเนื่อง สร้างสรรค์สังคม ให้พัฒนา ก้าวหน้ายั่งยืน มีการทำงานเป็นทีม การเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี มีระเบียบวินัย รู้หน้าที่ มีความรับผิดชอบ รู้รักสามัคคี และเสริมสร้างมิตรภาพที่ดีต่อกันในหมู่คณะ ที่สำคัญเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรัก ภักดี และความหวงแหนในสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แสดงออกถึงพลังในความสามัคคีของประชาชนในพื้นที่ และยึดมั่น สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามพระราชเสาวนีย์แม่ของแผ่นดิน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สืบไป
ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า