แจงเหตุลอบวางระเบิด เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 6 นาย ขณะเดินทางเพื่อสับเปลี่ยนกำลัง

1522

        จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิด เจ้าหน้าที่ทหารขณะทำการเคลื่อนย้ายเพื่อสับเปลี่ยนกำลังบริเวณถนนหมายเลข 43 บ้านคลองประดู่ หมู่ที่ 4 ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เป็นเหตุให้เสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 นาย

         ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 เวลา 16.00 น. พันเอก วัชรกร  อ้นเงิน รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า วันนี้ (1 ตุลาคม 2563) เวลาประมาณ 11.20 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดขบวนยานยนต์ของ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 (ร.15 พัน.1) ขณะเคลื่อนย้ายเพื่อสับเปลี่ยนกำลังจาก ตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ไปยัง กองพันทหารราบเชิงรุก (พัน.ร.เชิงรุก) บ้านนูโร๊ะ หมู่ที่ 1 ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส เมื่อขบวนรถดังกล่าวมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดขึ้นแรงระเบิดทำให้รถยนต์บรรทุกขนาด 2 ½ ตัน (FTS) ได้รับความเสียหายเล็กน้อยกำลังพลเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 นาย นำส่ง โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร ทราบชื่อ

  1. จ่าสิบเอก สัญญา บุรีรักษ์ อาการ หูอื้อ มึนหัว เลือดออกจมูก
  2. สิบโท จักรกฤษ เพชรทอง อาการ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหลังหูขวา
  3. สิบตรี เอกราช วิชาศาสตร์ อาการ ถูกสะเก็ดบริเวณต้นขาขวา (บาดเจ็บสาหัสปัจจุบันนำส่ง รพ.ปัตตานี เพื่อผ่าตัดนำสะเก็ดระเบิดออก)
  4. พลทหาร อารียะ สาและ อาการ ถูกสะเก็ดบริเวณไหล่ขวา
  5. พลทหาร พงศกร ไหมร่วง อาการ ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหลังด้านขวา
  6. พลทหาร ฮารอฟัด มะเซ็ง อาการ ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหัวเข่า
  7. พลทหาร อรรถพล พลายชนะ อาการ ถูกสะเก็ดบริเวณหลังด้านขวา (โดนสะเก็ดระเบิดเข้าบริเวณหน้าอกด้านขวา มีเลือดคั่งในปอด ส่งต่อโรงพยาบาลปัตตานี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา)

          จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง วางแบบเร่งด่วน สะเก็ดระเบิดเป็นลักษณะเหล็กเส้นตัดท่อน จุดชนวนด้วยระบบวิทยุสื่อสาร โดยผูกติดไว้กับต้นไม้บริเวณเกาะกลางถนนหมายเลข 43 (หาดใหญ่ – ปัตตานี) บ้านคลองประดู่ หมู่ที่ 4 ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา โดยจากภาพข่าวความเคลื่อนไหวในห้วงที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มคนร้ายมุ่งที่จะก่อเหตุกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจในพื้นที่เป็นหลัก โดยเฉพาะในห้วงที่จะมีการสับเปลี่ยนกำลัง

          ภายหลังเกิดเหตุ พลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต พร้อมได้กำชับให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดูแลในเรื่องสิทธิและสวัสดิการ ตลอดจนจัดการศพอย่างสมเกียรติที่สุด และได้สั่งการเน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจสงขลา เพิ่มมาตรการในการควบคุมพื้นที่ และจัดกำลังติดตามบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ต้องสงสัย และแหล่ง support site ตลอดจนสนธิกำลังร่วมกับอาสาสมัครประจำพื้นที่ จัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด บริเวณเส้นทาง/พื้นที่ ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีและหลบซ่อนตัว รวมไปถึงการลาดตระเวนเส้นทางและจรยุทธ์ในพื้นที่ล่อแหลม โดยเฉพาะพื้นที่สูงข่ม พื้นที่เขตก่อสร้าง ท่อลอด คอสะพาน และพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายด่วน 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า