กิจกรรมการรณรงค์ฉีดวัคซีน COVID-19 และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มทหารให้กับกำลังพลและครอบครัว ช่วยลดป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ก่อนเทศกาลขึ้นปีใหม่ 2566

323

          วันนี้ (13 ธันวาคม 2565) เวลา 10.00 น. ที่สนามฟุตซอลนาควานิช ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม  อำเภอยะรัง  จังหวัดปัตตานี พันเอก อัฑฒเศรษฐ์  เต็มมีศรี รองเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นผู้แทน แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  พร้อมด้วย นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดกิจกรรมการรณรงค์ฉีดวัคซีน COVID-19 และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มทหารให้กับกำลังพลและครอบครัว ภายในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รวมถึงประชาชนในพื้นที่ข้างเคียง โดยมีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของศูนย์ประสานการแพทย์จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในพื้นที่อำเภอยะรัง ทั้ง 15 แห่ง ร่วมให้บริการในการฉีดวัคซีน COVID-19 จำนวน 300 โดส และ วัคซีนไข้หวัดใหญ่อีก 300 โดส ให้กับผู้เข้ารับริการฉีดวัคซีน

          โอกาสนี้ รองเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กล่าวขอบคุณสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ที่ให้การสนับสนุนวัคซีน Pfizer (ฝาแดง) และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิด 3 สายพันธุ์ ตามฤดูกาลปี 2565 แก่กำลังพลและครอบครัว ของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เสริมเกราะป้องกันโรค และเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนให้มากขึ้น แม้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 จะคลี่คลายแล้ว การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดการป่วยหนักและเสียชีวิตของกำลังพลและประชาชนได้อย่างมาก อีกทั้งเป็นการเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เพื่อลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่

          ด้าน นายแพทย์ เฉลิมพล  โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ย้ำว่าต้องการส่งเสริมให้ประชาชนทุกคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารจำเป็นต้องสร้างภูมิคุ้มกัน ให้การปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย มีภูมิคุ้มกัน และเป็นไปตามมาตรการของสาธารณสุขในการป้องกันเจ้าหน้าที่หน้าด่าน ซึ่งมีความเสี่ยงสูงในการสัมผัสโรค โดยเฉพาะกลุ่ม 608 (กลุ่มผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปีขึ้นไป ), ผู้มีโรคประจำตัวในกลุ่ม 7 โรคประจำตัว , หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป คือกลุ่มคนที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19  มากที่สุด  ซึ่งสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลาได้ทำการกระจายวัคซีนไปยังหน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างเรียบร้อยแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงป่วยหนักและเสียชีวิตของประชาชน

          นอกจากนี้ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลายังได้มอบอุปกรณ์เวชภัณฑ์ ป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 เพื่อนำไปมอบให้กับกำลังพลและประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ สำหรับป้องกันการแพร่ระบาดโรค COVID-19

          อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมาตรการผ่อนปรนวิถีชีวิตมากขึ้น  ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง รักษาแบบผู้ป่วยนอก แพทย์ให้ยาตามที่วินิจฉัย ส่วนการรักษาในโรงพยาบาล ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นแบบมีนัยสำคัญจนต้องเพิ่มมาตรการ ดังนั้นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนจึงเป็นกลุ่มที่อันตรายที่สุด เพราะคนที่ได้รับวัคซีนแล้วเปรียบเสมือนโรงงานผลิตภูมิคุ้มกันที่จะไปต่อสู้กับเชื้อโรค

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า