แม่ทัพภาคที่ 4 ติดตามสถานการณ์ เหตุระเบิดซ้ำ จุดกู้รางรถไฟ ย้ำเพิ่มมาตรการความปลอดภัยพื้นที่เสี่ยง ทั้งเส้นทางหลัก และทางรอง ขยายวงดูแลความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ

328

          ความคืบหน้า เหตุระเบิดซ้ำทางรถไฟจุดเก็บกู้ขบวน 707 บ.ท่าโพธิ์ ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่รถไฟ เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 4 ราย โดยศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายได้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการเก็บพิสูจน์หลักฐาน และลำเลียงออกจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อย

          ตั้งแต่ช่วงเช้า หลังทราบเหตุ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ เข้าประเมินสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนการทำงานให้เกิดความรัดกุมและความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง

          ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (6 ธ.ค.65) พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.รมน.ภาค 4 ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าด้วยตนเอง และสั่งการเจ้าหน้าที่ที่ส่วนเกี่ยวข้องเร่งเคลียเส้นทาง ย้ำมาตรการความปลอดภัยพื้นที่เสี่ยงทั้งเส้นทางหลัก และเส้นทางรอง คอสะพาน ท่อลอด ตลอดจนเส้นทางที่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ ตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าจะเคลียพื้นที่เสร็จ  เบื้องต้นให้กันพื้นที่ และผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกบริเวณ และขยายรัศมีตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยอีกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก  ขณะเดียวกันสั่งเฝ้าจับตารถยนต์ รถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่อาจจะแฝงตัวเข้ามาในพื้นที่ด้วย

          พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ขณะที่ทางรถไฟและเจ้าหน้าที่พยายามเคลียเส้นทางเพื่อให้เปิดบริการอำนวยความสะดวกในการขนส่งให้กับพี่น้องประชาชน แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงก็ยังคงใช้ความพยามยาม ก่อกวนสร้างสถานการณ์ ซึ่งรูปแบบการก่อเหตุ ใกล้จุดเกิดเหตุเพียงไม่กี่ร้อยเมตร นั่นหมายความว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้ประเมินสถานการณ์แล้วว่า ภายหลังเกิดเหตุ จะต้องมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และ เก็บวัตถุพยานหลักฐาน จึงตั้งใจให้มีเหตุระเบิดซ้ำ หวังทำลายชีวิตและทรัพย์สินโดยตรง  อีกทั้งการก่อเหตุนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  มีลักษณะไม่แตกต่างกับพื้นที่ความมั่นคง นั่นคือ ความพยายามของผู้ก่อเหตุมีตลอดเวลา เมื่อมีความพร้อม มีทางหนี จึงได้ลงมือ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะต้องเอาข้อผิดพลาดตรงนี้มาแก้ไข ตัดวงจรของผู้ก่อเหตุให้ได้  โดยทุกส่วนต้องเข้ามามีส่วนร่วมเตรียมการเฝ้าระวังและป้องกันอย่างเต็มที่

          จะเห็นได้ว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้น เป็นการกระทำการนอกพื้นที่ความมั่นคง ต่อจากนี้จะต้องรักษาความเข้มข้นในการเฝ้าระวังพื้นที่ โดยเฉพาะเขตเมือง เขตเศรษฐกิจ เพราะกลุ่มก่อเหตุหวังทำลายภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ หลังจากนี้ก็จะมีการเรียกส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุยในเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยเมืองให้ครอบคลุม โดยเฉพาะเมืองเศรษฐกิจ ทั้ง หาดใหญ่ สตูล และสุราษฎร์ธานี ไม่เฉพาะแต่พื้นที่ 3 จังหวัดและ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาเท่านั้น  ต้องมีการยกระดับการรักษาความปลอดภัย ร่วมกับหน่วยความมั่นคง ให้เพิ่มสูงขึ้น เพื่อขยายพื้นที่ดูแลความปลอดภัย และเฝ้าระวังภัยสูงสุด โดยเฉพาะพื้นที่เขตเมือง และพื้นที่เศรษฐกิจ ที่เป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อเหตุความรุนแรง เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่รับผิดชอบ ต้องระดมความคิด และหาข้อมูลด้านการข่าวอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อรับแผนเผชิญเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ยิ่งใกล้เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่จะมีพี่น้องประชาชนทั้งในและต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่

          พร้อมกันนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้อง เข้าใกล้จุดเกิดเหตุเด็ดขาด โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่ละแวกใกล้เคียง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมประณามผู้ก่อเหตุความรุนแรงที่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ และทำให้เกิดความเสียหาย รวมทั้งแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอให้ความมั่นใจว่าจะดูแลอย่างเต็มที่

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า