วันนี้ (5 พฤศจิกายน 2565) เวลา 09.30 น. ที่วัดเกาะอภินิหาร หรือวัดกุหร่าร้าง บ้านสวนโอน หมู่ที่ 6 ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการดำเนินการบูรณะปฏิสังขร ศาสนสถาน โบสถ์มหาอุตม์ วัดเกาะอภินิหาร หรือวัดกุหร่า (ร้าง) พร้อมถวายปัจจัยและสังฆท่านแก่พระสงฆ์ โดยมี พันเอก ยุทธนา เพชรม่วง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจังหวัดสงขลา,หัวหน้าส่วนราชการ,ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ
สำหรับอุโบสถวัดเกาะอภินิหาร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดกุหร่า(ร้าง) ตั้งอยู่ที่บ้านสวนโอน หมู่ที่ 6 ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ปัจจุบันมี พระมานพ มหาวีโร เป็นประธานสงฆ์วัดกุหร่า (ร้าง) สันนิษฐานว่าวัดเกาะอภินิหารหรือว่าวัดกุหร่าร้าง มาจากศัพท์ภาษามลายูว่า กูรอ แปลว่า เต่าวัดกุหร่า (ร้าง) ซึ่งไม่พบประวัติการก่อสร้างและไม่พบว่ามีบันทึกอยู่ในเอกสารทางประวัติศาสตร์ใด ๆ มีโบราณสถานเพียงหลังเดียวคืออุโบสถก่ออิฐในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ อุโบสถตั้งอยู่บนฐานบัวขนาดค่อนข้างใหญ่ มีช่องประตูทางเข้าทางด้านหน้าเพียงช่องเดียว และผนังไม่มีร่องรอยของช่องหน้าต่าง แต่อาจจะมีช่องแสงเล็กๆใต้ระดับอุโบสถ์ ไม่มีเสาคู่กลางแต่มีผนังค่อนข้างหนา เพื่อใช้รับน้ำหนัก สันนิษฐานว่าเป็นโครงสร้างไม้มุงหลังคาด้วยกระเบื้องดินเผาภายนอกมีการปูพื้นด้วยอิฐกว้างประมาณ 1 เมตร เป็นทางเดินหรือลานประทักษิณโดยรอบอุโบสถ มีการผูกพันธสีมาโดยใช้ก้อนหินธรรมชาติลักษณะของอุโบสถ์มีช่องประตูเพียงช่องเดียวที่เรียกว่า มหาอุตม์ ทั้งนี้ กรมศิลปากรได้ดำเนินการขุดแต่งและบูรณะอุโบสถในปีงบประมาณ 2563
โดยความคืบหน้าของโครงการบูรณะโบราณสถานวัดกุหร่า (ร้าง) เพื่ออนุรักษ์โบราณสถานให้มีความมั่นคงแข็งแรงไม่ให้เสื่อมคุณค่าก่อนเวลาอันควร และเป็นการเสริมสร้างให้ประชาชนทั่วไปเห็นคุณค่าความสำคัญของโบราณสถาน ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจและหวงแหนมรดกทางศิลปะวัฒนธรรมของชาติ เป็นประโยชน์ด้านการศึกษาในรูปแบบของศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสงขลา ที่จะส่งผลให้ชุมชนและท้องถิ่นมีรายได้ต่อไปด้วย ซึ่งมีงบประมาณในการก่อสร้าง 2,697,000 บาท โดยมีสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้ดำเนินงาน ซึ่งดำเนินไปแล้วกว่า 85% และมีกำหนดแล้วเสร็จประมาณเดือนเมษายนในปีหน้า
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้พบปะประธานสงฆ์วัดกุหร่า และพี่น้องประชาชนไทยพุทธในพื้นที่ เนื่องจากคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดีเมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ซึ่งวัดกุหร่า(ร้าง) นี้ เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในชุมชนที่แสดงออกถึงพหุวัฒนธรรมอันสวยงามของคนในพื้นที่ ที่มีทั้งไทยพุทธ และมุสลิมมาร่วมกิจกรรมงานวัดงานบุญต่างๆ ด้วยความรักและสามัคคีอันดีต่อกัน
ต่อจากนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะฯ เดินทางมายังหน่วยเฉพาะกิจสงขลา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา พบปะกับกลุ่มมวลชนทั้งไทยพุทธและมุสลิม เพื่อสร้างความร่วมมือในการดูแลพื้นที่สร้างหมู่บ้าน และชุมชนที่เข้มแข็ง ปราศจากยาเสพติด โดยได้นำนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติดมาสร้างความเข้าใจแก่พี่น้องประชาชน ช่วยกันสอดส่องดูแล เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการเพื่อนำผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการก้าวร้าวรุนแรงสู่ระบบการบำบัดรักษา พร้อมกับได้เน้นย้ำผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ช่วยกันดูแลจัดระเบียบให้กับประชาชน และน้อง ๆ เยาวชนในช่วงประเพณีลอยกระทง ให้มีความระมัดระวังในเรื่องความปลอดภัยของสถานที่จัดงานไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ รวมไปถึงการทำความเข้าใจในการเล่นประทัด จุดพรุไฟ โคมลอย เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ด้วยการสร้างความร่วมมือ ทั้งร้านค้าผู้ขายและผู้ซื้อ โดยถือโอกาสนี้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันพร้อมกันกับกลุ่มมวลชนอีกด้วย
ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า