ทหารพรานหญิงเป็นแขนขาสำคัญของภาครัฐ ที่มาสร้างสันติสุขในพื้นที่ นอกจากจะดูแลความสงบเรียบร้อยแล้ว ยังทำงานส่งเสริมอาชีพให้กับชาวบ้านซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล นั่นคือ “สันติสุขจะเกิดขึ้นได้ปากท้องของพี่น้องประชาชนจะต้องอิ่ม”

474

          รองโฆษกฯรัชดา ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากกลุ่มสตรีในพื้นที่ยะลา ย้ำ รัฐบาลพร้อมผลักดันสตรีให้เข้ามามีส่วนร่วมกับการสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

          (9 มิถุนายน 2565) นางสาวรัชดา  ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลด้านประสานการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ พร้อมด้วย นางสาวชมพูนุท  นาครทรรพ ที่ปรึกษากรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล รศ.พรรณชฎา  ศิริวรรณบุศย์ อาจารย์ประจำ มหาวิทยาลัยมหิดล และ พ.ท.คงพจน์  ทองสุข หัวหน้าส่วนประสานงาน สล.คปต.สน. ลงพื้นที่ ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา พบปะเยี่ยมเยียนและรับฟังปัญหาข้อเสนอแนะจากกลุ่มสตรีโกธาร่า พร้อมขับเคลื่อนผลักดันบทบาทกลุ่มสตรีให้มีส่วนร่วมสร้างสันติสุข พัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พันเอก พงศกร  แสงสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 และกำลังพล ให้การต้อนรับ

          นางสาวรัชดา  ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลด้านประสานการมีส่วนร่วม กล่าวถึงการลงพื้นที่ว่า ทหารพรานหญิงเป็นแขนขาสำคัญของภาครัฐ ที่มาสร้างสันติสุขในพื้นที่ ซึ่งนอกจากเขาดูแลเรื่องของความสงบเรียบร้อยแล้ว ยังทำงานในเรื่องของการส่งเสริมอาชีพ ซึ่งเป็นตัวอย่างสำคัญที่ทางทหารพรานหญิงได้มีความใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนกลุ่มสตรีในการส่งเสริมอาชีพ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ว่า สันติสุขจะเกิดขึ้นได้คือปากท้องของพี่น้องประชาชนจะต้องอิ่ม รัฐบาลได้ส่งเสริมบทบาทของผู้หญิง ผลักดันให้ผู้หญิงมีส่วนในการสร้างสันติสุข และทำงานด้านการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

           รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยทำอะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะในเฉพาะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีต้นแบบที่อยากให้ต่างประเทศได้เข้ามาศึกษา เนื่องจากเรามีผู้หญิงดูแลเรื่องของสันติสุข มีทหารพรานหญิง มีอาสาสมัครผู้หญิงที่จะมาสร้างบรรยากาศลดความรู้สึกของความรุนแรงและความขัดแย้งในสังคม โดยเจ้าหน้าที่หญิงทุกคนจะทำหน้าที่เชื่อมความรู้สึกและความใกล้ชิดระหว่างประชาชนกับภาครัฐได้ดีมาก ดังนั้นการส่งเสริมอาชีพก็จะทำงานร่วมกันกับภาครัฐ การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมในพื้นที่ในจังหวัดชายแดนใต้ที่จะเห็นได้ชัดกว่าภาคอื่น ดังนั้นภาครัฐก็จะเข้ามาแก้ไขปัญหาตรงนี้ร่วมกับพี่น้องประชาชน

          ด้าน นางสาวรูวัยดา  เด็นหะ เลขากลุ่มสตรีโกธาร่า ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา กล่าวว่า ดีใจที่ทางคณะมาเยี่ยมเยียน และทราบว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับบทบาทสตรีที่ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนชุมชน ยืนยันว่าสตรีในพื้นที่ จชต. มีศักยภาพในการทำงานต่างๆ ได้พร้อมจะเป็นกำลังในการสนับสนุนภาครัฐเพื่อพัฒนาและสร้างสันติสุขให้เกิดในพื้นที่

           จากนั้นคณะ ได้นั่งรถ 3 ล้อพ่วงข้าง เดินทางไปมอบถุงยังชีพให้แก่นายดอเลาะ  เจ๊ะซอ อายุ 96 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 12/3 ม.1 ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งเป็นกลุ่มคนเปราะบางไม่สามารถหารายได้เพื่อเลี้ยงชีพตัวเองได้ พร้อมกันนี้ได้สอบถามถึงปัญหาความเป็นอยู่และให้กำลังใจในการดำเนินชีวิต

กรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลด้านประสานการมีส่วนร่วม    สวท.ยะลา.กรมประชาสัมพันธ์

ศูนย์ประชาสัมพันธ์  กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า