แม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ (เครือข่ายนายซอลหลี) พร้อมของกลางยาไอซ์ 585 กิโลกรัม มูลค่า 117 ล้านบาท

492

          วันนี้ (21 มีนาคม 2565) เวลา 16.30 น. ณ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พลโท เกรียงไกร   ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการกำลัง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ พลเรือน และส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ (เครือข่ายนายซอลหลี) โดยสามารถจับกุมนายพลวัต (บังหมาด) เดชกุบ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 431/7 หมู่ที่ 3 ตำบลท่าชะมวง อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา และนางสาววรัญญา ฤทธิเดช อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 314/2 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าชะมวง อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา พร้อมของกลางยาไอซ์ 585 กิโลกรัม มูลค่า 117 ล้านบาท ลูกปืนซองยาวจำนวน 1 กระบอกพร้อมกระสุน 3 นัด โทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมซิมการ์ดจำนวน 2 เครื่อง รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน เหตุเกิด  ณ  บ้านเลขที่ 431/7 หมู่ที่ 3 ตำบลท่าชะมวง อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา และบ้านเลขที่ 26/1 หมู่ที่ 4 ตำบลเขาพระ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2565 เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือไอซ์ ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

           พลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า “การจับกุมเครือข่ายยาเสพติดแต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเกาะติดสถานการณ์ ที่มาของยาเสพติด แหล่งผลิตอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่ารูปแบบของขบวนการค้ายาเสพติดมักปรับเปลี่ยนวิธีการ และพลิกแพลง เพื่อหลบหลีกการจับกุมของเจ้าหน้าที่อยู่เสมอ ในส่วนของเจ้าหน้าที่เองก็จำเป็นที่จะต้องหาหนทางในการสกัดกั้น หลายครั้งกลุ่มขบวนการเหล่านี้ก็สามารถหลบหลีกการจับกุม การตรวจค้น จากด่านตรวจ จนเข้ามาถึงพื้นที่ภาคใต้ โดยในส่วนของภาคใต้เองเราก็จะมีจุดสกัดอยู่หลากหลายจุดก่อนเข้าพื้นที่ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ประสาน และบูรณาการการทำงานของหน่วยงานความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ และ ปปส. เพื่อสกัดกั้นการเข้ามาของยาเสพติดยังพื้นที่ภาคใต้อย่างเข้มงวด ตั้งแต่จังหวัดพัทลุงลงมาได้บูรณาการการทำงานกับ ปปส.ภาค 9 มีการติดตามด้านการข่าว จนนำไปสู่การจับกุมและขยายผลหลายคดี ในห่วงปีที่ผ่านมาเราสามารถยึดทรัพย์ได้ จำนวน 500 กว่าล้าน ซึ่งถือว่าเป็นผลสำเร็จจากการบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วน สำหรับการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด (นายซอลหลี) มีการจับกุม และขยายผล จนนำมาสู่การจับกุมครั้งใหญ่ในครั้งนี การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนมีความเข้มข้นอย่างมาก ฝากถึงผู้ที่หลงเข้าไปสู่กระบวนการค้ายาเสพติดเหล่านี้ ขอให้ได้ตระหนักถึงความผิดที่กระทำ และขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนจะทำงานกันอย่างเข้มข้น เพื่อให้ยาเสพติดหมดไปจากพื้นที่”

           สำหรับผลการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานชุดจับกุมได้ทำการสืบสวน ติดตามเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งเป็นขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ มีพฤติกรรมในการซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในภาชนะเครื่องใช้ไฟฟ้า บรรจุยาเสพติดชนิดไอซ์ เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งเคยมีการจับกุมผู้ต้องหาในพื้นที่จังหวัดพัทลุงเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมาจำนวนหลายราย โดยส่วนหนึ่งได้รับการประสานข้อมูลจากต่างประเทศ และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนและร่วมกันทำการสืบสวนขยายผลมาโดยต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งว่านายอภิสิทธิ์ (หมาน) รองเดช มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด (ยาไอซ์) โดยเป็นเครือข่ายของ นายซอลหลี  ขุนเศษเกื้อ นักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา โดยนายอภิสิทธิ์ฯ จะรับคำสั่งจากนายซอลหลีฯ ซึ่งจะมีวิธีการอำพรางยาเสพติด โดยนำยาเสพติดแอบซุกซ่อนไว้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า และจะใช้บ้านของตนเองเป็นที่เก็บและบรรจุยาเสพติด จึงได้วางแผนทำการสืบสวนติดตามจับกุม ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ทราบว่านายอภิสิทธิ์ฯได้สั่งให้นายพลวัตฯ และนายอับดุลอูหมาดฯ นำยาเสพติดเพื่อรอส่งให้กับเครือข่าย เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเข้าตรวจสอบ จนกระทั่งเวลา 18.00 น. เข้าตรวจสอบ  ณ  บ้านเลขที่ 431/7 หมู่ที่ 3 ตำบลท่าชะมวง อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นบ้านของนายพลวัต จากการตรวจสอบ นายพลวัตร (บังหมาด) เดชกุบ และนางสาววรัญญา ฤทธิเดช แสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน ตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (แอมเฟตามีนหรือไอซ์) ซุกซ่อนในเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวน 110 เครื่อง และบางส่วนที่ยังไม่ได้บรรจุใส่เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกจำนวน 267 กิโลกรัม รวมยาไอซ์ 377 กิโลกรัม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบบ้านของนายอภิสิทธิ์ฯ และนายอับดุลอูหมาดฯ (ซึ่งอยู่ติดกัน) แต่นายอับดุลอูหมาดฯ ได้ทำการหลบหนีออกไปทางป่ายางข้างบ้าน จึงได้ประสานกับผู้ใหญ่บ้านเข้าทำการตรวจสอบ พบของกลางยาไอซ์บรรจุในเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวน 108 กล่อง บางส่วนยังไม่บรรจุใส่เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกจำนวน 100 กิโลกรัม รวมยาไอซ์ทั้งหมด 208 กิโลกรัม พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาวจำนวน 1 กระบอก กระสุน 3 นัด

           เบื้องต้นจากการสอบถามนายพลวัตฯ ให้การว่าตนเองได้รับคำสั่งจากนายอภิสิทธิ์ ให้เก็บยาเสพติดจำนวน 4 ครั้ง โดยจะมีค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 100,000 บาทต่อการส่งงานแต่ละครั้ง ครั้งที่ 1  จำนวน 100 กิโลกรัม ครั้งที่ 2 จำนวน 250 กิโลกรัม ครั้งที่ 3 จำนวน 110 กิโลกรัม และครั้งที่ 4 จำนวน 100 กิโลกรัม สำหรับเครือข่ายของนายซอลหลี เป็นผู้ค้ารายใหญ่มีหมายจับ ขณะนี้หลบหนีการจับกุม และขบวนการนี้จะใช้วิธีการบรรจุยาไอซ์ไว้ในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยบรรจุใส่กล่องกล่องละ 1 กิโลกรัม จากนั้นจะนำสินค้าขนส่งไปที่แหลมกระบังเพื่อส่งออกต่างประเทศ ในส่วนของผู้กระทำผิดที่ยังหลบหนีอยู่ เจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย และทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเพื่อทำการตรวจยึดและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ศูนย์ประชาสัมพันธ์  กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า