วันนี้ (21 มีนาคม 2565) เวลา 10.00 น. ณ สนาม หน้าเทศบาล ตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานเปิดกิจกรรม “รวมพล ชาวมะรือโบตก ร่วมละหมาดฮาญัต สร้างสันติสุข” ต้อนรับเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1443 ซึ่งสำนักงานคณะประสานงานระดับพื้นที่ (สล.3) ร่วมกับผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และพี่น้องประชาชนจัดขึ้น เป็นการแสดงออกถึงความตั้งใจ และเจตนาอันแน่วแน่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการความสงบ ความสันติ ตลอดจนเพื่อเป็นการขับเคลื่อนแนวความคิดการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และแสดงออกถึงการต่อต้านความรุนแรง เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมในพื้นที่ให้เกื้อกูลต่อกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นการสร้างขวัญ กำลังใจให้กับพี่น้องประชาชน ก่อนการเข้าสู่ “ห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐยิ่ง” ที่กำลังจะถึง (ฮิจเราะห์ศักราช 1443)
ภายหลังการเสร็จสิ้นพิธีละหมาดฮาญัต แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวพบปะกับผู้เข้าร่วมกิจกรรม ก่อนปล่อยลูกโป่ง จำนวน 500 ลูก เพื่อแสดงพลังชาวมะรือโบตก รักสันติสุข ปฏิเสธและต่อต้านความรุนแรง ก่อนมอบถุงยังชีพแก่พี่น้องประชาชน และครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงในพื้นที่ โดยมี นายสนั่น ธงอักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส, พันเอก ทวีรัตน์ เบญจาธิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ผู้นำศาสนา พี่น้องประชาชน และเยาวชนในพื้นที่เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 อย่างเคร่งครัด
พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า “ขอสันติสุขจงมีแด่ทุกท่าน กิจกรรม “รวมพลชาวมะรือโบตก ร่วมละหมาดฮาญัต สร้างสันติสุข” ในวันนี้เป็นการร่วมแสดงออกถึงพลัง และความสามัคคีของคนในพื้นที่ เป็นกิจกรรมที่ทุกคนอยากเห็น อยากวิงวอนให้ผืนแผ่นดินที่เราเกิดและอยู่อาศัยเป็นพื้นแผ่นดินแห่งความสุข เราต่างต้องการดูแลรักษาเพื่อให้ความสันติสุขเกิดขึ้นในพื้นที่ เกิดขึ้นกับลูกหลานของทุกคน จะเห็นได้ว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นในห้วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ไม่ได้สร้างความสุขให้กับพี่น้องประชาชนเลย มีแต่ความสูญเสีย ความพลัดพราก และเป็นบ่อเกิดแห่งความทุกข์ ทุกคนจึงต้องการความสันติสุข พร้อมที่จะปฏิเสธความรุนแรง และอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ที่ผ่านมานั้นมีกลุ่มคนเพียงจำนวนไม่มากที่เกิดความเห็นต่าง ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา หน่วยงานต่างๆ จึงพยายามสร้างความเข้าใจในความเห็นต่าง จนทำให้ได้มีกระบวนการที่จะเสนอแนะ ท้วงติง พูดคุย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นผ่านประชาธิปไตยตำบล ที่ถือเป็นวิถีแห่งการพูดคุย เพื่อกำหนดกฎเกณฑ์ในชุมชน ในตำบลที่เราจะร่วมเดินไปด้วยกัน พัฒนาไปด้วยกันในทุกมิติ ความเห็นต่างเกิดขึ้นได้ แต่ต้องบริหารความขัดแย้งอย่างสันติวิธี ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนา สู่ความสันติสุข สู่ความมั่นคง มั่นคั่ง และยั่งยืนต่อไป ในทางกลับกันหากเราใช้ความเห็นต่าง จนนำไปสู่ความรุนแรงก็จะก่อให้เกิดความสูญเสีย ถึงเวลาแล้วที่วันนี้เราจะร่วมกันให้เยาวชนและลูกหลานของเราเป็นคนเก่ง และควบคู่ไปกับการเป็นคนดีของสังคม ซึ่งเราจะทำร่วมกันผ่านกระบวนการทางศาสนาให้ลูกหลาน เยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วมสร้างสันติสุขในพื้นที่ และให้อนาคตของลูกหลาน และชาติบ้านเมืองมีแต่ความสุขสงบตลอดไป สำหรับเดือนรอมฎอนที่จะมาถึงนี้ ขอความร่วมมือผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และที่สำคัญคือผู้นำศาสนาสร้างความร่วมมือ ได้พูดคุย แนะนำทำความเข้าใจ ให้ผู้เห็นต่างได้เข้าสู่กระบวนการอันถูกต้อง กลับมาอยู่กับครอบครัว อยู่กับคนที่รัก และร่วมปฏิเสธความรุนแรง เพื่อลดความสูญเสียในเดือนอันประเสริฐนี้”
ทั้งนี้ ตามที่สำนักงานเลขานุการคณะประสานงานระดับพื้นที่ (สล.3) ร่วมประชุมกับสมาชิกคณะประสานงานระดับพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จัดกิจกรรม “รวมพลชาวมะรือโบตก ร่วมละหมาดฮาญัต สร้างสันติสุข” ตามคำเรียกร้อง และเสนอแนะจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลมะรือโบตกที่มีความต้องการจะร่วมจัดกิจกรรมขึ้น กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการแสดงออกถึงความตั้งใจ และเจตนาอันแน่วแน่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่ต้องการความสงบ ความสันติ โดยร่วมกันการละหมาดฮาญัต ซึ่งถือเป็นการละหมาดที่ชาวมุสลิมทุกคนจะขอพรต่อเอกองค์อัลลอฮ (ช.บ) พระผู้เป็นเจ้า เพื่อตอบรับคำวิงวอนของพี่น้องมุสลิมได้ดลบัลดาลให้เกิดความสันติสุขในพื้นที่โดยเร็ววัน ทั้งยังเป็นการแสดงถึงจุดยืนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลมะรือโบตก ที่ปฏิเสธต่อการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในทุกรูปแบบ เนื่องจากการใช้ความรุนแรงมีผลกระทบต่อความสูญเสียทั้งในเรื่องชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงการพัฒนาในมิติต่างๆ อีกด้วย
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วน