จากกรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบและบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพื้นที่หมู่ 2 บ้านบือแนจือแร ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาพักอาศัย และใช้เป็นฐานปฏิบัติการสำหรับเตรียมก่อเหตุ เพื่อลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ จนเกิดการปะทะเป็นเวลา 3 วัน คนร้ายถูกวิสามัญ 7 ราย เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 นาย นั้น
ล่าสุด วันนี้ (17 ส.ค. 2563) ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงสรุปผลการเข้าพิสูจน์ทราบและบังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อเหตุรุนแรง ในพื้นที่บ้านบือแนจือแร ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ว่า เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 เวลา 07.00 น เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบจังหวัดปัตตานี ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติพิเศษร่วมประจำจังหวัดปัตตานี ได้เข้าพิสูจน์ทราบและบังคับใช้กฎหมาย เข้าตรวจค้นพื้นที่บริเวณบ้าน บือแนจือแร ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบความเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปทำการตรวจสอบ พบฐานปฏิบัติการ ที่พักชั่วคราวและอุปกรณ์ยังชีพได้หลายรายการ และได้การปะทะกับกลุ่มคนร้ายหลายระลอก โดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามเจรจาให้คนร้ายมอบตัว โดยเชิญผู้นำท้องถิ่นและผู้นำศาสนามาช่วยเกลี้ยกล่อม แต่ก็ไม่เป็นผล คนร้ายยังคงใช้ความรุนแรง จนทำให้คนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 2 ราย และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย คือ ร.ต. สุทธิพร สุภาการ อายุ 33 ปี สังกัด ชุดควบคุม 543 กระสุนปืนถูกบริเวณต้นขาขวา ได้รับบาดเจ็บ นำส่ง โรงพยาบาลศูนย์ยะลา จ.ส.ต. อนุวัฒน์ สวนโศกเชือก อายุ 31 ปี สังกัด ชุดควบคุม 543 กระสุนปืนถูกบริเวณข้อเท้าซ้าย ได้รับบาดเจ็บ นำส่ง โรงพยาบาลยะรัง จังหวัดปัตตานี ส.ท. แสนชัย ชาติชำนาญ อายุ 27 ปี สังกัด ชุดควบคุม 543 กระสุนปืนถูกบริเวณต้นขาซ้ายและข้อเท้าขวา ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้ทั้ง 3 นาย อาการปลอดภัย โดยตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่คงยังกระชับพื้นที่ควบคู่การเจรจา เพื่อให้คนร้ายมอบตัว
จนกระทั้งเช้าวันที่ 15 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ได้เปิดการปฏิบัติการอีกครั้งด้วยการเชิญผู้นำศาสนาผู้นำท้องที่ท้องถิ่นเข้ามาเจราจา แต่ไม่เป็นผล กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงใช้ความรุนแรงจนเกิดการปะทะเป็นระลอก พบคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คน แบ่งเป็น 2 ชุด หลบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณป่าละเมาะ กลางทุ่งนา และได้รับบาดเจ็บแต่ยังคงยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ได้ปรับแผนเข้ากระชับวงล้อม พร้อมส่งชุดเข้าไปเจรจา เพื่อให้กลุ่มคนร้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ 3 คน ให้ยอมมอบตัว แต่คนร้ายยังคงยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ กระทั่งช่วงเย็นพบคนร้ายถูกวิสามัญเพิ่มอีก 2 ราย รวม 4 ราย จนถึงเช้าวันที่ 16 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ได้กระชับพื้นที่เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุปะทะพบศพคนร้ายรายที่ 5 นอนเสียชีวิตในทุ่งนา พร้อมพบอาวุธปืนสงครามข้างกาย จำนวน 1 กระบอก จากนั้นได้เข้าตรวจสอบบริเวณฐานที่ตรวจยึดได้ในวันแรกโดยละเอียดอีกครั้ง พบคนร้ายเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าได้รับบาดเจ็บจากการปะทะและตลอดหลายวันต้องอยู่ในทุ่งนามีน้ำขังประกอบกับขาดอาหารและน้ำ จึงเป็นเหตุให้ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต รวม 3 วัน คนร้ายเสียชีวิตทั้งสิ้น 7 ราย ประกอบด้วย
- นายอันวา กอแล/โซ๊ะ/วาจิ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 145/3 ม.4 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พฤติกรรม : เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงสมาชิกระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญา 1 หมาย โดยเกี่ยวข้องโดยกับคดีสำคัญหลายเหตุการณ์ เช่น เหตุยิง นายทิณกรณ์ บุญเอียด (เสียชีวิต) ขณะขับรถส่งขนมปัง เมื่อ 16 ธันวาคม 2556
- นายมะซูกี สารูเม๊าะ/อัชฮา อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 88 ม.1 ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา พฤติกรรม: เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ มีหมายจับ ป.วิอาญา 2 หมาย โดยเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญหลายเหตุการณ์ เช่น เหตุระเบิดนางเงือกที่หาดสมิหลา จ.สงขลา, เหตุลอบยิง จนท.ชคต.ประจัน เสียชีวิตจำนวน 4 นาย ขณะ รปภ.โรงเรียนบ้านบูโกะ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อ 10 มกราคม 2562
- นายมาสุวัน กะจิ/อาแบ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 287/1 ม.4 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี (ไม่มีหมาย ป.วิอาญา) พฤติกรรม : เคยถูกควบคุมตัวและให้การยอมรับว่าเป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
- นายอาหามะ จาจ้า อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ม.5 ต.ปะโด อ.มายอ จ.ปัตตานี พฤติกรรม : เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 12 หมาย มีหมายจับ พ.ร.ก 2 หมาย โดยเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญหลายเหตุการณ์ เช่น เหตุลอบยิง นายวาเย็ง วานิ เสียชีวิต,ยิงทหารพราน ในพื้นที่ ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อ 10 ตุลาคม 2551 และร่วมกับพวกก่อเหตุยิงปลัดอำเภอและลูกจ้างสำนักงานบริหารราชการ ต.ปะโด อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อ 16 มีนาคม 2549
- นายอะมะ ดือเระห์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.4 ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี พฤติกรรม : เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ และเป็นหัวหน้าระดับครูฝึก มีหมายจับ ป.วิอาญา 2 หมาย โดยเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญหลายเหตุการณ์ เช่น เหตุลอบยัง อส.ทพ. มูฮามะสอบรี ซาเราะ เสียชีวิต บริเวณตลาดนัดภายในหมู่บ้าน บ.บือแนลาเมาะ ม.4 ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2557
- นายอิสมาแอ แลแร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.3 ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี พฤติกรรม : เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการและเป็นหัวหน้าระดับฝ่ายส่งกำลังในเขตพื้นที่ อ.ยะหริ่ง และ อ. เมือง จ.ปัตตานี มีหมายจับ ป.วิอาญา 3 หมาย โดยเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญหลายเหตุการณ์ เช่น ยิงนางชุติมา รัตนสำเนียง เสียชีวิต และ น.ส.รุ่งนภา คงสุวรรณ บาดเจ็บสาหัส ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นครู โรงเรียนชุมชนบ้านตาแกะ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อ 21 ธันวาคม 2549 และร่วมกับพวกก่อเหตุฆ่าและตัดศีรษะ นายจิตร เตชะวรรณโต และ นายเนย สร้างอำไพ ในพื้นที่ ต.ตาเกะ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี พร้อมทั้งวางเพลิงเผาร่างและบ้านพักของบุคคลทั้งสองเสียชีวิต เมื่อ 9 สิงหาคม 2550 และเหตุลอบยิง เจ้าหน้าที่ ชคต.ประจัน ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เสียชีวิต 4 ราย เมื่อ 10 มกราคม 2562
- นายลุตฟี บาเหะ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/1 ม.2 ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี (ไม่มีหมาย ป.วิอาญา)พฤติกรรม : เคยถูกควบคุมตัวและให้การยอมรับว่าเป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง ในพื้นที่ อ.ยะรัง และ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
สำหรับของกลางที่ยึดได้ประกอบด้วย
1) ปืนเล็กยาว M 16 จำนวน 2 กระบอก
2) ปืนเล็กยาว AK-47 จำนวน 1 กระบอก
3) ปืนเล็กยาว AK-102 จำนวน 1 กระบอก
4) ปืนเล็กยาว HK-33 จำนวน 1 กระบอก
5) ปืนพก ขนาด 11 มม. จำนวน 2 กระบอก
6) ปืนพก ขนาด 9 มม. จำนวน 3 กระบอก
7) โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
8) เป้สนาม จำนวน 8 ใบ
9) อุปกรณ์ดำรงชีพหลายรายการ
ตลอดระยะเวลา 3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้พยายามบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนักมาโดยตลอดประกอบกับ สภาพพื้นที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาและมีป่าละเมาะ ทำให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องทำทุกอย่างด้วยความละเอียดรอบคอบ ระมัดระวัง โดยดหลักตามแนวทางสันติวิธีแต่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเลือกที่จะใช้ความรุนแรงในการตอบโต้จนทำให้เกิดความสูญเสียดังกล่าว ทั้งนี้ พล.ท. พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดทั้ง 3 วัน พร้อมสั่งการให้หน่วยปรับแผนบูรณาการกำลังจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย จนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมทั้งชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกคนโดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นาย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญเสียสละเพื่อนำความสงบสุขมายังพื้นที่ หลังคลี่คลายสถานการณ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งให้งานมวลชนเร่งเข้าไปทำความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์กับประชาชน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่มีการกระทำโดยรอบพร้อมกับให้ อำเภอยะรัง ได้สำรวจความเสียหายทางทรัพย์สินของประชาชน ที่เกิดจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะดูแลเยียวยา อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเข้าเคลียร์พื้นที่ เพื่อความปลอดภัย ก่อนจะได้ส่งคืนพื้นที่ให้แก่ประชาชนต่อไป สำหรับฐานปฏิบัติการที่ตรวจยึดได้ตั้งแต่วันแรกเบื้องต้นคาดคะเนว่าเป็นฐานปฏิบัติการของผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ใช้งานมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เป็นที่ประชุมวางแผนเตรียมการก่อเหตุขนาดใหญ่ ในเขตพื้นที่จังหวัดปัตตานีในเร็วๆ นี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบเสียก่อน สำหรับศพของคนร้ายทั้ง 7 ราย ปัจจุบันทราบว่ามีญาติมารับไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว จำนวน 5 ราย ยังเหลืออีก 2 ราย ซึ่งอยู่รพะหว่างรอญาติมารับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจไปยังญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ราย และขอให้พี่น้องประชาชนทุกคน ได้มั่นใจในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ที่ยึดการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด และทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นสำคัญ เพื่อสร้างความปลอดภัยและสันติสุขให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากพบเห็นสิ่งปกติ บุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ ขอให้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ หรือแจ้งไปยังหมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร : 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า