เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี ติดตามงานด้านความมั่นคง และงานด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนติดตามการแก้ปัญหาโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ให้การต้อนรับ และร่วมคณะติดตาม
โดยในเวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปยังตึกศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้แห่งใหม่) ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดยะลา มอบพันธุ์กล้าไม้ให้แก่ผู้แทนเกษตรกร ก่อนกล่าวพบปะส่วนราชการ และประชาชน เน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการใช้ตัวชี้วัดความยากจน (TPMAP) เพื่อกำหนดเป้าหมายเร่งด่วนให้ครัวเรือนยากจน พ้นเกณฑ์ความจน 5 มิติ และให้ส่งเสริมเกษตรกรในเรื่องการปลูกพืชที่สามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังฝากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ครบจำนวนเข็ม เพื่อลดความรุนแรงของโรคและลดการเสียชีวิต โดยมี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม
ภายหลังพบปะประชาชน นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการกิจกรรมต่างๆ ที่ขับเคลื่อนโดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อาทิ การขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี “เก้าอี้สุขใจสู่รองเท้าสั่งตัด” และการนําระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการวินิจฉัยความพิการ และ เปิดศูนย์ปฏิบัติการ “การขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” ภายใต้กรอบแนวทาง “1 ข้าราชการ ศอ.บต. 1 ครัวเรือนยากจน” เยี่ยมชมนิทรรศการการส่งเสริมการเรียนรู้การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร “การสอนภาษาไทยในโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดน” และ “การใช้สื่อสร้างสรรค์ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทยควบคู่ภาษาพื้นถิ่น” ผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพ โดยผู้แทนกลุ่มอาชีพจังหวัดยะลา ศูนย์ให้บริการ SMEs ครบวงจร ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม จังหวัดยะลา การพัฒนาพื้นที่เมืองต้นแบบเบตง จังหวัดยะลา “Amazean Jungle Trail” และตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ําพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย ของศูนย์บริหารจัดการน้ําส่วนหน้าจังหวัดชายแดนภาคใต้
หลังเสร็จสิ้นการชมนิทรรศการ นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานมอบนโยบายการบูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ งานด้านความมั่นคง และด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้รับฟังรายงานข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ ความก้าวหน้าการดำเนินงานการแก้ไขปัญหา และการเตรียมการภายหลังการผ่อนคลาย มาตรการควบคุมเชิงพื้นที่ โดย ผู้อำนวยการ พัฒนาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหน้า, รายงานสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยแม่ทัพภาคที่ 4 และผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ เพื่อเดินหน้าการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนมอบนโยบายต่อไป
ในที่ประชุม พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวรายงานสรุปสถานการณ์และการปฏิบัติที่สำคัญว่า “กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่ ได้นำนโยบายของรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติในพื้นที่ ภายใต้การบูรณาการทำงานร่วมกันกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นเอกภาพ ส่งผลให้สถานการณ์ในภาพรวมมีพัฒนาการไปในทิศทางที่ดีขึ้นโดยลำดับ การดำเนินงานยังคงยึดมั่นการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธีตามแนวทาง การเมืองนำการทหาร ปัจจุบันอยู่ในระยะ “การปฏิบัติการเชิงรุกควบคู่กับการพัฒนา” มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครประจำพื้นที่ด้วยการจัดตั้งหมวดปฏิบัติการพิเศษของกองกำลังตำรวจ ตั้งฐานปฏิบัติการดูแลพื้นที่ จัดตั้งสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เพื่อดูแลภารกิจเชิงรับแทนกำลังทหาร ปัจจุบันได้ประเมินความพร้อมในด้านต่างๆ และถ่ายโอนให้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทยเรียบร้อย รวมทั้งสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่สำคัญ อาทิ การสกัดกั้นตามแนวชายแดน และการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด 19 และยังคงดำเนินงานตามนโยบายสำคัญเร่งด่วน ทั้งงานการควบคุมพื้นที่ และการบังคับใช้กฎหมาย, งานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด, งานเสริมสร้างความเข้าใจ, งานการเสริมสร้างสังคมพหุวัฒนธรรม และการส่งเสริมการพัฒนาเพื่อความมั่นคง ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงดำรงความมุ่งหมายในการแก้ไขปัญหาภายใต้นโยบายรัฐบาล และข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการ / ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายตัวชี้วัดและกรอบระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ต่อไป
จากนั้นเวลา 15.00 น. คณะเดินทางยังศูนย์เรียนรู้การเพาะเลี้ยงปูทะเล บ้านโต๊ะโสม ตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี พบปะสมาชิกกลุ่มเลี้ยงปูทะเล ตามนโยบายผลักดันจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเมืองปูทะเลโลก และเชื่อมโยงกลุ่มอาชีพเลี้ยงปูทะเลไปยังอาชีพอื่น โดยมี นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวต้อนรับ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวรายงานกรอบการพัฒนา “จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเมืองปูทะเลโลก” ก่อนมอบพันธ์ุลูกปูให้แก่สมาชิกกลุ่มเลี้ยงปูทะเล และมอบพันธุ์ไม้โกงกาง เพื่อเป็นแหล่งอนุบาลลูกปูในพื้นที่ให้แก่สมาชิกกลุ่มท่องเที่ยวชุมชน เยี่ยมชมนิทรรศการ “จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเมืองปูทะเลโลก” และเยี่ยมชมการสาธิตการดักปูทะเล และปล่อยพันธุ์ปูทะเล
ด้าน พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กล่าวรายงานว่า “พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีต้นทุนทางธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ใช้ความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งป่าชายเลนที่มีความเสื่อมโทรมนำมาฟื้นฟูสู่การจัดโครงการนำร่อง โดยการฟื้นฟูชายฝั่ง และส่งเสริมการเลี้ยงปูทะเลจำนวนทั้งสิ้น 34 ชุมชน สำหรับในพื้นที่บางปู อำเภอยะหริ่งมีการเริ่มต้น ร่วมกับเกษตรกรกว่า 1,500 คน นำร่องในพื้นที่ โดยปล่อยลูกปูประมาณ 700,000 ตัว มีอัตรารอดประมาณร้อยละ 70 หรือ 500,000 ตัว ในช่วงเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา มีผลผลิตมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งจุดที่ยืนอยู่ในขณะนี้เป็นบ่อกุ้งร้างของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ สามารถปล่อยได้ประมาณ 60,000 ตัว แต่เกษตรกรปล่อยไว้ประมาณ 40,000 กว่า มูลค่ากว่า 5.8 ล้านบาท พื้นที่นี้ถือเป็นพื้นที่นำร่องซึ่งจะเชื่อมโยงไปสู่ภาคส่วนอื่นๆ ถือเป็นห่วงโซ่ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดปัตตานีมีชุมชนท่องเที่ยว 17 แห่ง การที่ให้พื้นที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางของเมืองปูทะเลโลก จะเป็นพื้นที่พัฒนาที่สร้างรายได้การชุมชน และฟื้นฟูธรรมชาติให้เกิดความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น”
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “วันนี้ตั้งใจมาพบพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และมาติดตามความก้าวหน้าด้านต่างๆ และดูว่าพี่น้องประชาชนมีความสุขมากน้อยแค่ไหน วันนี้ได้เห็นรอยยิ้มของพี่น้องประชาชน มาในวันนี้ด้วยความคิดถึง ปัจจุบันรัฐบาลได้เร่งแก้ปัญหาด้านความยากจนรายครัวเรือน อาจมีการปรับแก้ปรับเปลี่ยน เพื่อให้ตรงความต้องการของพี่น้องประชาชน และสอดคล้องกับศักยภาพที่มีอยู่ในพื้นที่ เราต้องคำนึงถึงการผลิต การแปรรูป และการจัดจำหน่าย หากเราทำมากตลาดอาจไม่พอที่จะรองรับ วันนี้ต้องรู้จักการปรับเปลี่ยนให้เป็นเกษตรแนวใหม่ ทำอย่างไรใช้พื้นที่ให้น้อย แต่มีผลผลิตที่มาก รวมทั้งมีคุณภาพ ทำอย่างไรก็ได้ ที่เป็นความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง จึงต้องเกิดขึ้นจากความร่วมมือกันทั้งรัฐบาล และพี่น้องประชาชน สิ่งสำคัญคือพี่น้องประชาชนต้องรับฟังการนำเสนอข้อมูล รับทราบว่ารัฐบาลกำลังดำเนินการอย่างไร และเราจะสามารถเดินทางอย่างไรให้สอดคล้องกัน สำหรับลงพื้นที่ในวันนี้ในภาพรวมเป็นที่น่าพึงพอใจ เพราะการทำงาน ของแต่ละหน่วยทำให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่เราสามารถร่วมกันเพื่อทำให้ดีกว่านี้ขึ้นได้ เราต้องเดินไปด้วยกัน จับมือกันเดินไปข้างหน้า”
ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า