รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาด้านการค้าชายแดน และด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

512

          วันนี้ 6 พฤศจิกายน 2564 เวลา  09.00 น. ณ ห้องประชุมพระยานราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาด้านการค้าชายแดนตามมติคณะกรรมการยุทธศาสตร์ (กพต) ครั้งที่ 3/2564 และด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดน โดยมี นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พลโทธิรา  แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4/ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, รศ.ดร.บดินทร์ รัศมีเทศ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจน หัวหน้าส่วนราชการและส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

          โดยการประชุมดังกล่าว ได้รายงานสรุปภาพรวมความก้าวหน้าการพัฒนาด่านการค้าชายแดนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส, รายงานสรุปการบริหารจัดการด่านและข้อเสนอการบริหารจัดการ ด่านในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส (ด่านตากใบ ด่านบูเก๊ะตา และด่านสุไหงโก-ลก) พร้อมทั้ง รับฟังข้อเสนอแนะ และแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการทำงานของส่วนราชการ ต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกับกล่าวมอบนโยบายให้คำแนะนำข้อสั่งการ แก่หน่วยงานทุกหน่วยเพื่อนำไปขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติให้เป็นผลรูปธรรมโดยได้เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนบูรณาการทำงานให้ครอบคลุมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาพื้นที่ ตลอดจนการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้เพื่อความสงบสุขในพื้นที่ พี่น้องประชาชนในพื้นที่อยู่ดีกินดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

          พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ได้มาติดตามการดำเนินงานเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับข้าราชการพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ว่ารัฐบาลมีความเห็นใจในการบริหารจัดการทุกอย่างในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะ จังหวัดนราธิวาส สำหรับด้านการบริหารจัดการตามด่านชายที่ทางรัฐบาลมีมติให้เปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ทางให้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ เพื่อสกัดกั้นและคัดกรองการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังเป็นพื้นที่คุมเข้มไม่สามารถเปิดประเทศได้ แต่ทั้งนี้ทางรัฐบาลไทยได้เร่งประสานกับรัฐบาลมาเลเซีย เรื่องการบริหารจัดการและควบคุมโรคโควิด-19 จึงขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในการดำเนินงานของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด สำหรับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมยี่งอ ขณะนี้ได้ดำเนิินการทำประชาพิจารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้เร่งรัดให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า