จับกุมโดยละม่อม 2 ผกร.สายบุรี ปัตตานี หลัง จนท.เข้าเกลี้ยกล่อมจนยอมมอบตัว ไร้การสูญเสีย

858

           เวลา 10.50 น. วันนี้ (24 ก.ย.2564) เจ้าหน้าที่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อเหตุรุนแรง ตามหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 2 ราย คือ

  1. นายอัซมัน หะมะ บ้านเลขที่ 12 ม.10 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งมีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 1 หมาย และ
  2. นายอาฮามัด แลแร บ้านเลขที่ 76 ม.10 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 1 หมาย

           โดยทั้ง 2 เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา กระทำความผิดฐานร่วมกันสะสมกำลังพล จัดหาหรือรวบรวมทรัพย์สิน ให้หรือรับการฝึกการก่อการร้าย ตระเตรียมการอื่นใด หรือสมคบกัน เพื่อก่อการร้าย หรือกระทำความผิดใด ๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อก่อการร้าย, ร่วมกันเป็นอั้งยี่กัน

           โดยเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า ทั้ง 2 รายได้เข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ม.5 ต.มะนังดาลำ และ ม.10 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จึงเข้าทำการตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าว และพบบุคคลเป้าหมาย หลบซ่อน อยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งจึงได้เข้าแสดงตัว พร้อมแสดงหมายจับ ป.วิอาญา ให้บุคคลภายในบ้านได้รับทราบหลักฐานและขั้นตอนในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เพื่อบังคับใช้กฎหมาย พร้อมเชิญ ผู้นำท้องที่ ผู้นำศาสนา เข้าทำความเข้าใจกับญาติเพื่อให้เชิญตัวผู้ต้องหาเข้ามามอบตัว

          ทั้งนี้ บุคคลเป้าหมายทั้ง 2 รายได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และออกมาพบเจ้าหน้าที่ โดยไม่มีการเข้าไปควบคุมตัวภายในบ้านแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับ ป.วิอาญา ให้รับทราบ พร้อมทั้งให้เจ้าของบ้านนำเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน ซึ่งไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด จึงได้ควบคุมตัวบุคคลทั้ง 2 ราย ไปลงบันการจับกุม ยัง สถานีตำรวจภูธรสายบุรี จ.ปัตตานี พร้อมเชิญญาติของทั้ง 2 ราย ร่วมเดินทางไปเป็นพยานในการเข้าบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ ก่อนเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายต่อไป

          ทั้งนี้ พลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เน้นย้ำการเข้าบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ ให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยยึดหลักสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เน้นการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ไม่ต้องการใช้ความรุนแรง เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และความมั่นใจในมาตรการการควบคุมพื้นที่และบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ ที่ได้ดำเนินการติดตามในทุกคดีที่เกิดขึ้น ด้วยความระมัดระวังและใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่จะใช้เป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อป้องกัน ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งป้องกันตนเองหากคนร้ายมีการต่อสู้เท่านั้น

         อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ ขอให้แจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลข 061 – 173 – 2999 หรือเบอร์สายด่วน 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า