พลตรี ไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ตรวจเยี่ยมติดตามการฝึกเพิ่มประสิทธิภาพแก่เจ้าหน้าที่ประจำชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) รุ่นที่ 1 ห้วงวันที่ 16 – 22 กันยายน 2564 ของ จังหวัดปัตตานี ณ ร้อย ค. หนัก กรมทหารราบที่ 153 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี โดยมี พันเอก อิศรา จันทะกระยอม ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 153 ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ การลงพื้นที่เพื่อติดตามการฝึกเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเจ้าหน้าที่ประจำชุดคุ้มครองตำบล มีความมุ่งหมายให้กำลังพลมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ประจำปี งบประมาณ 2565 เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเจ้าหน้าที่ประจำชุดคุ้มครองตำบลให้มีความพร้อมและเป็นมาตรฐานเดียวกันในการทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและเป็นครูฝึกในการดำเนินการฝึกทบทวนภายในหน่วยให้กับชุดคุ้มครองตำบลเพื่อให้การปฏิบัติงานร่วมกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการฝึกเพื่อเป็นการเสริมสร้างความเป็นผู้นำให้สามารถควบคุม บังคับบัญชา ชุดปฏิบัติการ ในการปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเพื่อเป็นการฝึกทบทวนภารกิจทั้งมาตรการเชิงรุกและมาตรการเชิงรับให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เป็นการทบทวนยุทธศาสตร์ยุทธวิธีของฝ่ายตรงข้าม นโยบาย/สั่งการ และแนวทาง ในการปฏิบัติของผู้บังคับบัญชา ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบัน และเพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกได้นำความรู้ ความสามารถ ไปขยายผลและทบทวนให้กับกำลังประจำถิ่นได้อย่างมีเหตุมีผล รัดกุม รอบคอบ เป็นรูปธรรมนำไปสู่การแก้ปัญหาในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาดหวังว่ากำลังพลที่ผ่านการฝึก สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกไปประยุกต์ใช้ ในการปฏิบัติงานในพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ
สำหรับผู้ที่เข้ารับการฝึกเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ได้รับการบรรจุในโครงสร้างของชุดคุ้มครองตำบล โดยพิจารณาคัดเลือกกำลังพล ที่มีความรู้ และสามารถทำหน้าที่ เข้ารับการฝึก ชคต. ละ 6 นาย ซึ่งการดำเนินการฝึกจัดกำลังพลจากหน่วยขึ้นตรงกองพลทหารราบที่ 15 ในการดูแลรับผิดชอบชุดคุ้มครองตำบล ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งหมด 149 ชคต. แบ่งพื้นที่รับผิดชอบเป็น 3 จังหวัด คือ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งโดย กรมทหารราบที่ 153 รับผิดชอบ ชุดคุ้มครองตำบลในพื้นที่จังหวัดปัตตานี จำนวน 57 ชุดคุ้มครองตำบล มีผู้เข้ารับการฝึก จำนวน 350 นาย ซึ่งการดำเนินการฝึก แบ่งการฝึกออกเป็น 2 ห้วง เพื่อลดความเสี่ยงของกำลังพลที่เข้ารับการฝึก และเป็นไป ตามมาตรการควบคุมโรค COVID-19 โดยห้วงที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 16 – 22 กันยายน 2564 ดำเนินการฝึก จำนวน 28 ชุด และ ห้วงที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 23 – 29 กันยายน 2564 ดำเนินการฝึก จำนวน 29 ชุด การปฏิบัติ เป็นไปตามตารางการฝึก โดยใช้กรอบแนวทางการฝึก ที่ทางศูนย์ฝึกทางยุทธวิธี กำหนด ห้วงละ 7 วัน โดยใช้ชุดครูฝึก จาก รองหัวหน้าชุดคุ้มครองตาบล ที่ผ่านการฝึกจาก ศูนย์ฝึกทางยุทธวิธี ในห้วงวันที่ 1 – 10 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
จากนั้น ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 และคณะ ได้เดินทางต่อไปยัง กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 152 เพื่อตรวจเยี่ยมติดตามการฝึกเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเจ้าหน้าที่ประจำชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) รุ่นที่ 1 ของจังหวัดยะลา ซึ่งรับผิดชอบ จำนวน 41 ชุดคุ้มครองตำบล มีผู้เข้ารับการฝึก จำนวน 254 นาย โดยได้มอบ นโยบายและแนวทางการฝึกให้เป็นตามนโยบายที่กำหนด พบปะกำลังพล ที่เข้ารับการฝึกฯ ณ ห้องอบรมกองร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 152 ค่ายพระยาเดชานุชิต อำเภอรามัน จังหวัดยะลา โดยมี พันเอก ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 152, พันโท พัศวีร์ โปชะดา ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 152 ให้การต้อนรับ
สำหรับการฝึกแบ่งออกเป็น 4 สถานี ประกอบด้วย สถานีที่ 1 บุคคลเบื้องต้น / ครูทหาร ระเบียบการนำหน่วย / กฎการใช้กำลัง, สถานีที่ 2 IPB, การอ่านแผนที่ / ยุทธวิธีฝ่ายตรงข้าม แผนป้องกันตำบล / การเมืองในจังหวัดชายแดนภาคใต้, สถานีที่ 3 การตั้งจุดตรวจ / จุดสกัด / การรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ / การสังเกตสิ่งผิดปกติ / การลาดตระเวนเส้นทาง และสถานีที่ 4 การช่วยเหลือผู้ป่วยในสนามรบ / การใช้อาวุธ การระวังป้องกันฐานปฏิบัติการ / การยิงปืนด้วยกระสุนจริง
ทั้งนี้ พลตรี ไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ได้พบปะ ให้โอวาทกับกำลังพลผู้เข้ารับการฝึก และตรวจเยี่ยมความพร้อมในแต่ละสถานีฝึก ให้คำแนะนำการปฏิบัติกับชุดครูฝึก เพื่อให้การฝึกเกิดประสิทธิภาพในการฝึกสูงสุด พร้อมทั้งมอบเครื่องบริโภค แก่กำลังพลผู้เข้าร่วมฝึก เพื่อเป็นการสร้างขวัญ และกำลังใจ ตลอดจนเน้นย้ำ การทำ ชคต.ให้เข้มแข็ง จัดกำลังพลตามมาตรฐานให้เหมาะสม เพื่อเสริมสร้าง ให้เป็นชุดคุ้มครองตำบลที่เข้มแข็ง โดยให้ผู้เข้ารับการฝึก ทุกนายตั้งใจเข้าระบการฝึก เพื่อนำความรู้ ไปต่อยอดขยายผลให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการปกป้องดูแลประชาชนสามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานเพื่อการดูแลในพื้นที่ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า