พลเอก ประวิตร  ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.)  เห็นชอบขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อ 3 เดือน สั่งเข้มระวังโควิดชายแดน  บังคับใช้กฎหมายควบคู่สร้างความเข้าใจ ขอบคุณเจ้าหน้าที่เสียสละ ประชาชนร่วมมือ แม้สถานการณ์ โควิด-19

590

        เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564  พลตรี พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้เวลา10.00 น.  พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) ครั้งที่ 3/2564 โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุม ณ  ห้องประชุมวิจิตรวาทการ  ทำเนียบรัฐบาล

        ที่ประชุมได้รับทราบ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รายงานผลการดำเนินงานตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ห้วง 20 มิ.ย.-20 ส.ค.64 ซึ่งภาพรวมสถานการณ์การก่อเหตุความรุนแรงมีแนวโน้มลดลง อย่างต่อเนื่อง ประชาชนให้ความร่วมมือด้วยดี ที่ผ่านมา รวมถึงความคืบหน้า ผลการดำเนินการตามแผนปรับลดพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ และความคืบหน้า แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพ ด้านการสืบสวน สอบสวน คดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของสำนักงานอัยการภาค 9  จากนั้น คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) ได้พิจารณาเห็นชอบตามที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า  เสนอขอขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยกเว้น อ.ไม้แก่น ,อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี  อ.เบตง ,อ.กาบัง จ.ยะลา และอ.สุไหงโก-ลก ,อ.สุคิริน ,อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่ 20 ก.ย.64 และสิ้นสุดใน 19 ธ.ค.64 โดยเป็นการขยายระยะเวลา  ครั้งที่ 65 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพในการดูแล รักษาความปลอดภัยชีวิต และทรัพย์สิน ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่

        พลเอกประวิตร  ได้กำชับ กองทัพภาคที่ 4 ,กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ให้เข้มงวดงานด้านการข่าว ,การเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และเน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมายควบคู่สร้างความเข้าใจประชาชน พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกนาย ที่เสียสละ ทุ่มเทการทำงาน อย่างเต็มที่ และให้เตรียมแผนการปรับลดพื้นที่ประกาศ ฉุกเฉินเพิ่มเติม เพื่อรองรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานบรรลุเป้าหมาย  ปลอดภัยจากภารกิจ และโควิด-19 กันทุกคน

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า