พลโท คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยว่า เมื่อ 0900 พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กห.และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปล.กห. ประชุมติดตามการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤตโควิด 19 ร่วมกับ กอ.รมน. นขต.กห. เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม
ภาพรวมฝ่ายความมั่นคง ทหารตำรวจ ยังคงตรวจพบและจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองตามชายแดนและพื้นที่ชั้นในได้ต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ 1-19 ส.ค.64 จับกุมได้ 2,949 คน สำหรับการควบคุมโรค เจ้าหน้าที่ยังคงร่วมกันตั้งจุดตรวจและด่านตรวจบริเวณรอยต่อจังหวัดสีแดงเข้ม และจัดชุดเคลื่อนที่เร็วตรวจในพื้นที่ แจ้งเตือนและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดการเคลื่อนย้ายคนและจำกัดกิจกรรมเสี่ยงตามเคหสถานที่เป็นปัญหา โดยยังพบการรวมกลุ่ม ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมและผิดกฎหมายต่อเนื่อง ได้แก่ การดื่มสุรา มั่วสุมเสพยา เล่นการพนัน และการออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนดต่อเนื่อง อันเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ยากต่อการควบคุมโรคเป็นส่วนรวม
ขณะเดียวกัน กองทัพได้จัดกำลังเข้าไปเสริมร่วมกับ กทม.ในชุดตรวจเชิงรุก ( CCRT ) 260 ชุดและจัดตั้ง CI ในเขตต่างๆ เพื่อเร่งค้นหาคัดกรองในชุมชนและแยกผู้ป่วยออกมารักษาในระบบ พร้อมทั้งจัดตั้ง CI ในหน่วยทหาร จำนวน 39 แห่งทั่วประเทศและอยู่ระหว่างขยายเพิ่ม สามารถรองรับการช่วยเหลือผู้ป่วยเขียวกว่า 2,900 ราย ซึ่งทะยอยเปิดดูแลประชาชนแล้วตั้งแต่ กลาง ส.ค.ที่ผ่านมา สำหรับการสนับสนุนช่วยเหลือขนย้ายผู้ป่วย ทหารตำรวจ ได้จัดยานพาหนะช่วยรับผู้ป่วยตามบ้านออกมารักษาแล้วกว่า 20,669 ราย และสนับสนุนการขนย้ายผู้ป่วยกลับรักษาในภูมิลำเนาแล้วรวม 854 ราย
พล.อ.ชัยชาญ’ ได้กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.และรมว.กห. ได้กำชับขอให้กำลังทหารตำรวจเข้าไปเสริมในพื้นที่สีแดงเข้ม โดยประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและทำงานร่วมกับภาคเอกชน เพื่อช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดในทุกมิติ โดยย้ำว่าเราจำเป็นต้องผนึกกำลังช่วยเหลือดูแลและร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อต่อสู้ผ่านภาวะวิกฤตของชาติไปด้วยกัน
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์’ ได้ฝากแสดงความขอบคุณและเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจทุกคน ในการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งอดทน ทั้งบุคลากรแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าในพื้นที่เสี่ยง ที่บังคับใช้กฎหมายและการทำความเข้าใจกับประชาชนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียของบุคลากรทางการแพทย์ของ ทอ.ที่ผ่านมา โดยขอให้กำลังพลทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ประมาทและให้ความสำคัญดูแลครอบครัวตนเองมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ได้ย้ำให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับให้การช่วยเหลือดูแลครอบครัวกำลังพลและผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า ให้ได้รับการช่วยเหลือทันเวลาและมีความปลอดภัยกันทุกคนเช่นกัน
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า