วันนี้ 10 กรกฎาคม 2564 เวลา 10.00 น. ที่ สถานีตำรวจภูธรสายบุรี ตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลตำรวจโท รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, พลตรี คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี, และนายสมนึก พรหมเขียว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ร่วมแถลงผลการปฏิบัติการขยายผลจับกุมการลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี โดยสามารถยึดของกลางเป็นยาไอซ์ จำนวน 278 ถุง น้ำหนักรวม 278 กิโลกรัม มูลค่า 139 ล้านบาท
พลตำรวจโท รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า การจับกุมผู้ค่ายาเสพติดได้ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่ามีเครือข่ายยาเสพติด กลุ่มของนายมะยูโซะ กูโน ได้ลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาพักในพื้นที่ ตำบลมะนังดาลำ บริเวณหมู่บ้านจลาโก จึงได้ประสานกำลัง 3 ฝ่าย เข้าตรวจค้น ณ บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ที่ 6 ตำบลมะนังดาลำ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี โดยมี นางสาวฟิรดาวซ์ คามิ อายุ 19 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน ผลการตรวจค้น พบยาไอซ์บรรจุในถุงพลาสติกใส่บรรจุไว้ในถุงชาพลาสติกสีเขียวมีอักษรภาษาอังกฤษ GUANYINWANG ระบุที่ข้างถุง และยาไอซ์บรรจุในถุงพลาสติกใส่บรรจุไว้ในถุงชาพลาสติกสีเหลืองมีอักษรภาษาอังกฤษ GUANYINWANG ระบุที่ข้างถุงคละกัน รวมทั้งหมด 278 ถุง น้ำหนักถุงละ 1 กิโลกรัม รวมยาไอซ์ ทั้งหมดน้ำหนัก 278 กิโลกรัม จากนั้นจึงได้นำตัว นางสาวฟิรดาวซ์ คามิ พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสายบุรี พร้อมขยายผลนำตัว นายนัชรู วาแยตามา อายุ 37 ปี มาซักถามเพิ่มเติม และให้การว่าของทั้งหมดเป็นของนายมะยูโซะ กูโน อายุ 38 ปี หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวมาคำเนินคดีต่อไป
ด้านพลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวว่า การขยายผลจับกุมการลักลอบค้ายาเสพติดได้เป็นจำนวนมากในครั้งนี้ ถือเป็นผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานการบูรณาการร่วมกันของกำลัง 3 ฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง จากแหล่งข่าวได้แจ้งมาจนนำมาสู่การควบคุมตัว ขยายผลสู่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกำลังดำเนินการต่อไป การปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในนโยบายการป้องกันปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ปัญหายาเสพติดที่มีการแพร่ระบาด ในวงกว้าง อันก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติหลายด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจและด้านสังคม หลังจากนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะได้ขยายผลสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป ทั้งนี้นโยบายสำคัญในการดำเนินการ ยังคงมุ่งเน้นใช้มาตรการทางกฎหมายสำหรับผู้ค้า และมาตรการทางสังคมสำหรับผู้เสพ ที่ต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูอย่างจริงจัง ตลอดจนเน้นการแก้ไขปัญหาตามแนวทางสันติ ดำเนินการบังคับ ใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ค้ารายใหญ่ และรายย่อยให้หมดสิ้นไป ควบคู่กับการส่งเสริมการบำบัดรักษา โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ชักชวนผู้ติดสารเสพติดเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิต และส่งเสริมอาชีพอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือยังพี่น้องประชาชนได้เป็นหูเป็นตา หากพบเห็นเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด และความมั่นคง สามารถแจ้ง หรือร้องทุกข์ ร้องเรียนเรื่องต่างๆ ได้ที่ตู้ ปณ.41 ปณจ.เมืองยะลา จ.ยะลา 95000 หรือ ช่องทางสายด่วน 1341 รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลข 06-1173-2999 สามารถติดต่อแจ้งเบาะแสต่างๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า