รดน้ำศพ “ส.อ.นิติพจน์ เพชรรัตน์” ด้วยความอาลัย พร้อมดูแลสิทธิสวัสดิการ หลังเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สั่งการหน่วยเร่งติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

        วันนี้ 8 กรกฎาคม 2564 เวลา 10.00 น. ที่สโมสรค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานในพิธี วางหรีดเคารพศพ และรดน้ำศพ สิบเอก นิติพจน์ เพชรรัตน์ อายุ 31 ปี กำลังพลเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์กองร้อยทหารราบที่ 2531 หน่วยเฉพาะกิจสงขลา 40 ที่ได้เสียชีวิตหลัง ปฏิบัติการจรยุทธ์ทำการพิสูจน์ทราบแหล่งหลบซ่อนพักพิงของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ในพื้นที่บ้านลางา หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านนา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ในขณะเข้าตรวจสอบได้มีคนร้ายวางระเบิดซุกซ่อนไว้ในพื้นที่ เป็นเหตุให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 นาย และเสียชีวิต 1 นาย เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

        ในการนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ได้วางหรีดเคารพศพ ในนามของนายกรัฐมนตรี /รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบก และแม่ทัพภาคที่ 4 ตามลำดับ พร้อมมอบเหรียญบางระจัน เพื่อประกาศเกียรติคุณยกย่องเชิดชูเกียรติแก่วีรชนผู้กล้าที่เสียสละ เพื่อความสงบของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  ก่อนเข้าสู่พิธีรดน้ำศพ  สิบเอกนิติพจน์ เพชรรัตน์ ที่มี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บังคับบัญชา เพื่อนทหาร ตำรวจ ร่วมรดน้ำศพ พร้อมกันนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จากผู้บัญชาการทหารบก และแม่ทัพภาคที่ 4 แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ก่อนจะกระทำพิธีส่งศพทหารกล้าอย่างสมเกียรติ กลับไปยังภูมิลำเนาเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ณ วัดดอนใคร ตำบลกลาย อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีกำหนดพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ในวันที่  8-11 กรกฎาคม 2564 ทั้งนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ สิบเอกนิติพจน์ เพชรรัตน์ เป็นกรณีพิเศษในวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 นี้

        ขณะที่ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ฝากความห่วงใย และแสดงความเสียใจมายังครอบครัวกำลังพลผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งชื่นชมในความกล้าหาญของกำลังพลที่ทุ่มเทในภารกิจอย่างสุดกำลังความสามารถ อย่างไรก็ตาม กองทัพบกขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ สิบเอกนิติพจน์ เพชรรัตน์ ที่ได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก จากการปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเทและเสียสละจนวาระสุดท้าย ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 4 ได้เร่งดูแลเรื่องสิทธิตามระเบียบของทางราชการ อาทิ เงินช่วยเหลือ ค่าจัดการศพ ค่าทดแทน  โดยตลอดการตั้งพิธีบำเพ็ญกุศลศพนั้น จะมีหน่วยรับผิดชอบดูแล ให้การสนับสนุน และอำนวยความสะดวกต่อการจัดการศพ ให้มีความเรียบร้อยในระหว่างบำเพ็ญกุศลอย่างสมเกียรติ

        ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวพลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจสงขลา และหน่วยที่เกี่ยวข้องบูรณาการกำลังเพิ่มมาตรการในการควบคุมพื้นที่ ติดตามบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ต้องสงสัย และแหล่ง support site ตลอดจนสนธิกำลังร่วมกับอาสาสมัครประจำพื้นที่ จัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด บริเวณเส้นทาง/พื้นที่ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีและหลบซ่อนตัว รวมไปถึงการลาดตระเวนเส้นทางและจรยุทธ์ในพื้นที่ล่อแหลม พื้นที่รอยต่อ ท่อลอด คอสะพาน และพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลจากกล้องวงจรปิด ทุกหน่วยให้เตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีมีเหตุได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือบุคคลต้องสงสัย ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐได้ทันที ที่สายด่วน 1341 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 061-1732999 สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”

        ขณะเดียวกันในวันนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่บ้านลางา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา มีกำลังพลชุดปฏิบัติการจรยุทธ หน่วยเฉพาะกิจสงขลา 40 พักรักษาตัว จำนวน 3 นาย คือ พลทหาร ศรัณญ์ ด้วงช่วย พลทหาร สุธี ช่วยชาติ และ พลทหารซันซุรี ดอเล๊าะ รวมไปถึงกำลังพล กองกำลังตำรวจตระเวนชายแดน จังหวัดชายแดนภาคใต้อีก 1 นายที่เข้าพักรักษาตัวยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จากเหตุการปะทะกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ตำบลเตราะบอน  อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี คือ สิบตำรวจเอกธงชัย ศรีสวัสดิ์ ซึ่งทั้งหมดมีขวัญและกำลังใจที่ดี ยืนยันในการกลับมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในพื้นที่ต่อไป

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า