แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ บูรณาการร่วมกำลัง 3 ฝ่าย เหตุบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่บ้านบือแนบาแด จ.ปัตตานี ดำเนินการจากเบาไปหาหนัก ย้ำใช้กำลังเท่าที่จำเป็น และรัดกุม

        วันนี้ (6 กรกฎาคม 2564) เวลา 10.00 น.  ณ  ที่บังคับการทางยุทธวิธี หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมช่วยส่วนรวม ตำบลปล่องหอย อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี พลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ การประสานงานร่วมกันระหว่างทุกภาคส่วน ในการขยายผลการบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่เกิดเหตุการณ์ในพื้นที่บ้านบือแนบาแด ตำบลกะดุนง อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี 1 ในจุดที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นขวัญ และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้กำชับหน่วยให้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยใช้กำลังเท่าที่จำเป็น ทำความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในความจำเป็นของสถานการณ์ ที่ต้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย รวมถึงอาจมีการปิดกั้นเส้นทางเข้าออกด้วย เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติภารกิจของกำลังเจ้าหน้าที่ และสิ่งสำคัญอาศัยความร่วมมือเชิญผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาในพื้นที่ รวมทั้งญาติของผู้ก่อเหตุรุนแรง เข้าเจรจาเกลี้ยกล่อม ให้ยอมเข้ามอบตัว และให้มีการปฏิบัติอย่างรัดกุม เพื่อไม่เกิดการสูญเสียของทั้ง 2 ฝ่าย “ถึงแม้เหตุการณ์การปิดล้อมครั้งนี้จะยังไม่ยุติลง ก็ขอให้กำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอาศัยความร่วมมือกันปฏิบัติการร่วม ปิดทุกช่องทางการหลบหนี และห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกหรือผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้า – ออกบริเวรดังกล่าวโดยเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตราย เจ้าหน้าที่ทุกนายต้องมีความเข้มแข็งและอดทน ไม่ย่อท้อต่อภารกิจ เข้าประชิดปิดล้อม ทุกแผนต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้ได้ตัวผู้ก่อเหตุมาให้ได้และจบปฏิบัติการครั้งนี้โดยเร็ว หากมีความจำเป็นให้ใช้อาวุธเป็นมาตรการสุดท้ายเพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว หลังเข้าติดตามควบคุมการปฏิบัติการด้วยตนเอง

        สำหรับการปฏิบัติการณ์ในพื้นที่บ้านบือแนบาแด ตำบลกะดุนง อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมตั้งแต่ เวลา 06.30 น. ของวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 จนถึงเวลาประมาณ 13.30 น. ของวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการทางยุทธวิธี กระชับวงล้อมเข้าไปอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในที่หมายดังกล่าว ประมาณ 6 – 7 คน ซึ่งตลอดเวลาของการปฏิบัติภารกิจมีการเจรจาให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงที่หลบซ้อนอยู่ภายในได้ออกมามอบตัว การปฏิบัติยังคงดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปภายใต้หลักมนุษยธรรม ด้วยความระมัดระวังโดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก อย่างไรก็ตามขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจในมาตรการการควบคุมพื้นที่และบังคับใช้กฎหมายของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งได้ดำเนินการติดตามในทุกคดีที่เกิดขึ้น รวมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการแจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลข 061 – 173 – 2999 หรือเบอร์สายด่วน 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า