แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามคดีสำคัญในพื้นที่ สายบุรี จ.ปัตตานี เน้นย้ำการควบคุมพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชน

        วันนี้ 25 เมษายน 2564 เวลา 09.30 น. พลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ที่ 4411 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เพื่อรับฟังสถานการณ์เหตุการณ์ พร้อมติดตามคดีสำคัญในพื้นที่ ตลอดจนมอบนโยบายและสั่งการให้หน่วยในพื้นที่รับผิดชอบปฏิบัติการเชิงรุก ควบคุมพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยในช่วงเดือนรอมฎอน ขณะเดียวกันกับการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างใกล้ชิดด้วย โดยเฉพาะการควบคุมพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำภารกิจต่อหัวหน้าชุดปฏิบัติการจรยุทธ์บูรณาการกำลังทุกภาคส่วนควบคุมพื้นที่จุดเสี่ยง จุดล่อแหลมในการก่อเหตุ ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเข้าลาดตระเวนกดดัน บังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เพื่อลดความพยายามการก่อเหตุให้มีประสิทธิภาพ และติดตามเป้าหมายสำคัญเร่งด่วนมาดำเนินการทางกฎหมายโดยเร็ว ทั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือด้วยการสร้างความรับรู้และความเข้าใจแก่พี่น้องประชาชน ให้เป็นหูเป็นตาแก่เจ้าหน้าที่รัฐ ใช้การปฏิบัติงานด้านการข่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด  ทั้งการเมืองและการทหาร ทำพื้นที่ให้เกิดความมั่นคงปลอดภัย

        หลังจากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางมายัง ศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจภูธรสายบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าเหตุการณ์กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์ราษฎร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บริเวณเกาะกลางถนนหมายเลข 42 พื้นที่ บ้านละหาร ตำบลละหาร อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสายบุรี ชุดปฏิบัติการพิเศษหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 และ ชุดปฏิบัติการร่วมพิเศษด้านข่าวกรองจังหวัดปัตตานี เพื่อประชุมวางแผนบูรณาการการใช้กำลัง ติดตามรายละเอียดด้านคดีและค้นหาเป้าหมายสำคัญ ควบคุมพื้นที่ป้องกันการหลบหนี ตลอดจนปฏิบัติการด้านการข่าวเชิงรุก และสร้างความสัมพันธ์กับชาวบ้าน หากมีการเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อจำกัดเสรีในการก่อเหตุซ้ำของแนวร่วมขบวนการ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือของกลุ่ม โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ยังคงเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมรับผิดชอบคดีว่า ให้มีความระมัดระวังรอบคอบ ไม่ประมาท ปรับเปลี่ยนยุทธวิธีทั้งรุก และรับ ให้เข้ากับสถานการณ์ ชิงความได้เปรียบเพื่อให้ได้มาซึ่งภารกิจในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชน

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า