แม่ทัพภาคที่ 4 ระดมสรรพกำลัง หนุนเสริม สธ. รับมือสถานการณ์ COVID-19 ขณะที่ภายในหน่วยทหารคุมเข้ม ยกระดับมาตรการป้องกันโรค COVID-19

691

        แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งระดมสรรพกำลัง กองทัพภาคที่ 4 สนับสนุนการทำงานของสาธารณสุขในพื้นที่ภาคใต้ รองรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่มีผู้ติดเชื้อและรอรับการรักษาเพิ่มจำนวนมาก ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 กระทรวงกลาโหม ได้เรียกประชุมเหล่าทัพ กอ.รมน. ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบทางไกล เพื่อระดมกำลังและยุทโธปกรณ์เข้าเสริมและสนับสนุนการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข รับมือกับสถานการณ์ COVID-19 อย่างเร่งด่วน โดยได้กำชับทุกเหล่าทัพ ระดมทรัพยากรที่มีอยู่เข้าไปเสริมและสนับสนุนการทำงานในพื้นที่ เพื่อรองรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อและรอรับการรักษาเพิ่มมากขึ้นในตอนนี้

        พลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้หน่วยทหารทุกที่เตรียมความพร้อม โดยเฉพาะการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของหน่วย สนับสนุนโรงพยาบาลสนามของจังหวัด พร้อมอุปกรณ์และกำลังพลเจ้าหน้าที่ เข้าไปเสริมและสนับสนุนการทำงานของสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อและรอรับการรักษาเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้ กองทัพภาคที่ 4 ในทุกพื้นที่ที่มีค่ายทหารตั้งอยู่ ได้สั่งให้สนับสนุนทั้งยุทโธปกรณ์และกำลังพลแก่โรงพยาบาลสนามของจังหวัดต่าง ๆ ส่วนของโรงพยาบาลสนามของกองทัพภาคที่ 4 ได้สนับสนุนสถานที่ของหน่วยทหาร เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ตามที่จังหวัดต่าง ๆ ได้ร้องขอแล้ว ในเบื้องต้น จำนวน 4 แห่ง ใน 3 จังหวัด คือ กระบี่ นครศรีธรรมราช และสงขลา โดยสามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 580 เตียง ซึ่งได้เปิดใช้งานไปแล้วในพื้นที่ จังหวัดสงขลา โดยใช้พื้นที่ ภายในค่ายมหาจักรีสิรินธร อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา รองรับได้ 100 เตียง ปัจจุบันได้รับตัวผู้ป่วยหญิง จาก โรงพยาบาลนาทวี และ โรงพยาบาลจะนะ ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่มีอาการดีขึ้น เข้าไปพักฟื้น รวม 36 คน อีกแห่งคือ ค่ายลพบุรีราเมศวร์ ตำบลเกาะสะบ้า อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ซึ่งสามารถรองรับได้ 100 เตียง ปัจจุบันใช้เป็นที่สังเกตอาการของกลุ่มเสี่ยง และในพื้นที่ จังหวัดกระบี่ ที่ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ สามารถรองรับ 280 เตียง ก็ได้ดำเนินการจัดตั้งเตรียมอุปกรณ์จำเป็นทุกอย่างไปพร้อมหมดแล้ว นอกจากนี้ ยังมีเพิ่มเติมอีกหนึ่งแห่ง คือ ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช รองรับได้อีกกว่า 100 เตียง  นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนเตียงฟูกที่นอน พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยานพาหนะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยพร้อมอุปกรณ์และสิ่งของอุปกรณ์ที่จำเป็น ตลอดจนกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือและดูแลความปลอดภัยให้แก่โรงพยาบาลสนามอื่น ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละจังหวัดตลอด 24 ชั่วโมง ยืนยันว่าทุกที่พร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันทีหากมีการร้องขอเข้ามา

        ทั้งนี้สำหรับโรงพยาบาลสนามที่อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 4 ที่ได้สนับสนุนจัดตั้งตามการร้องของจังหวัดต่าง ๆ ปัจจุบันมีจำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ สงขลา กระบี่ และนครศรีธรรมราช โดย สามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 580 เตียง เปิดใช้งานไปแล้ว จำนวน 36 เตียง คงเหลือ 544 เตียง ดังนี้

  1. จังหวัดสงขลา : ที่ อาคารกองร้อยสนับสนุนการช่วยรบ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 5 ค่ายมหาจักรีสิรินธร อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา รองรับได้ 100 เตียง ปัจจุบันได้รับตัวผู้ป่วยหญิง ที่มีอาการดีขึ้น จาก รพ.นาทวี และ รพ.จะนะ เข้ามาพักฟื้น รวม 36 คน และ ที่กรมสนับสนุนกองพลทหารราบที่ 15 ค่ายลพบุรีราเมศวร์ ตำบลเกาะสะบ้า อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา รองรับได้ จำนวน 100 เตียง
  2. จังหวัดกระบี่ ที่ อาคารแหล่งสมาคม และอาคารกองร้อยอาวุธเบาที่ 1 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ สามารถ รองรับ 280 เตียง ปัจจุบันยังไม่มีการใช้งาน
  3. จังหวัดนครศรีธรรมราช : ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช รองรับได้ 50 เตียง ปัจจุบันยังไม่มีการใช้งาน

        นอกจากนี้ ยังมีในโรงพยาบาลของหน่วยทหารอีกกว่า 50 เตียง ขณะที่ มาตรการดูแลระวังป้องกันโรคภายในค่ายทหาร แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งยกระดับมาตรการคุมเข้ม หลังกองทัพบกออกวิทยุด่วน สั่งยกระดับภายในหน่วยทหารตลอดจนบ้านพักราชการ โดยห้ามเข้า-ออก ค่าย หลังตี 5 – 21.00 น. จัดให้มีทางเข้า-ออก แต่ละอาคารเพียงทางเดียว พร้อมมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์แพทย์ตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิ ก่อนเข้าไปในอาคาร ตามที่กองทัพบกกำหนดอย่างเคร่งครัด พร้อมสั่งห้ามรวมกลุ่มจัดเลี้ยงสังสรรค์ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนงดรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนบ้านตามบ้านพัก ที่มีอาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ได้

        อย่างไรก็ตาม แม่ทัพภาคที่ 4 ขอให้พี่น้องประชาชนได้ช่วยกันดูแลป้องกันตนเอง และปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ที่ สบค. กระทรวงสาธารณสุข และจังหวัดต่าง ๆ กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยกันควบคุมไม่ให้การแพร่ระบาดของเชื้อเพิ่มมากขึ้น โดยกองทัพภาคที่ 4 พร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการรักษาและการควบคุมโรคร่วมกับทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ และได้ย้ำกำลังพลทุกคนจะต้องเสียสละ ทุ่มเทศักยภาพในทุกด้าน และให้การร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อดูแลประชาชน ให้ผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤต COVID-19 ได้อย่างปลอดภัย

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า