แม่ทัพภาคที่ 4 เผย ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ฝ่ายตรงข้ามต้องการแสดงความมีตัวตน กำชับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ย้ำผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษตามกฎหมายในที่สุด

10

          วันนี้ (21 มกราคม 2568) พลโท ไพศาล  หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในประเด็นสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องว่า ในห้วงที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีงบประมาณ 2568 มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่า เป็นการพยายามเพิ่มบทบาทของขบวนการ BRN พยายามมีบทบาทแสดงความมีตัวตน และก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น ผ่านผู้ที่ถูกกระทำเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายตำรวจ ฝ่ายทหาร รวมถึงเจ้าหน้าที่งานข่าวของหน่วย ซึ่งกลุ่มที่กระทำเป็นกลุ่ม BRN ที่ต้องการแสดงการเป็นขบวนการ

          สำหรับในส่วนของแผนการดูแลรักษาความปลอดภัยทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ ด้าน แม่ทัพภาคที่ 4 เผยว่า โดยในห้วงที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มีแผนเสริมสร้างสันติสุขในการรักษาความปลอดภัยทั้งสาธารณูปโภคแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ พี่น้องกลุ่มเปราะบางต่าง ๆ แต่ในห้วงที่เกิดเหตุการณ์มากขึ้น ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มีแผนพิทักษ์กำลังพล เนื่องจากที่ผ่านมาเป้าหมายของฝ่ายตรงข้าม คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร ซึ่งแผนพิทักษ์กำลังพลเป็นการรักษาความปลอดภัย แบ่งเป็น 2 ห้วง คือ ห้วงการปฏิบัติหน้าที่ และห้วงการลาพัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ จึงมีมาตรการทั้ง 2 ส่วน ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่หลัก ๆ จะดำเนินการ รปภ. พื้นที่ ส่วนการลาพักเป็น 3 มาตรการ คือ มาตราการ การรักษาความปลอดภัยด้วยตนเอง มาตรการ การรักษาความปลอดภัยด้วยชุมชน มีผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นที่คอยช่วยเหลือดูแลแจ้งข่าวสารเพราะบุคคลเหล่านี้ เป็นกำลังพลในชุมชน และมาตรการที่ 3 การรักษาความปลอดภัยโดยเจ้าหน้าที่ในแต่ละฐานก็จะมีเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง และทหาร บ้างครั้งกำลังพลอยู่ในพื้นที่จริงแต่ไปทำงานที่หน่วยอื่น เมื่อกลับมาก็ต้องมีการประสานกับหน่วยที่ดูแลพื้นที่ ทั้งการแจ้งข่าวสาร การดูแลเป็นพิเศษ แม้แต่เรื่องการแจ้งเตือนต่าง ๆ รวมถึงการพิจารณาสถานที่ล่อแหลมต่าง ๆ เพื่อหาวิธีที่ปลอดภัยที่สุด

          ทั้งนี้ พลโท ไพศาล  หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้กล่าวต่อสื่อมวลชนอีกว่า ในห้วงที่ผ่านมากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ให้ความสำคัญด้านการควบคุมพื้นที่และการบังคับใช้กฎหมาย การควบคุมพื้นที่เป็นการดูแลพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุ ส่วนการบังคับใช้กฎหมายเป็นการติดตามจับกุมกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุความรุนแรงที่อยู่ในกลุ่มขบวนการ ผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อยู่ในหมายจับ โดยเน้นย้ำส่วนที่เกี่ยวข้องในการจับกุมแต่ละครั้ง ของศาลใช้เวลา 2-3 ปี เมื่อจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีและศาลตัดสินแล้ว ต้องประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่พี่น้องประชาชนพื้นที่ต่อไป

แม่ทัพภาคที่4   แม่ทัพไพศาล

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า