กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จัดพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องใน “วันกองทัพไทย”

9

          วันนี้  18 ม.ค.68   เวลา 09.09 น. ที่ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นำกำลังพลของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, กรมทหารราบที่ 152 และ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 152 ประกอบพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเนื่องในวันกองทัพไทย 18 มกราคม 2568 ณ ศาลาสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อระลึกถึงวันสำคัญในวีรกรรมอันเป็นคุโณปการต่อประเทศชาติและปวงชนชาวไทย

          โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้จัดพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในงานรัฐพิธีวันยุทธหัตถี หรือ วันกองทัพไทย ประจำปี 2568 ซึ่งตรงกับวันที่ 18 มกราคมของทุกปี เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ได้ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะเหนือมวลหมู่อริราชศัตรูทั้งปวง พระองค์ได้ประกาศอิสรภาพให้กับชนชาติไทย สร้างชาติไทยให้เป็นปึกแผ่น แข็งแกร่งและมีเอกราชตราบจนทุกวันนี้ เช่นเดียวกับทางจังหวัดพิษณุโลกซึ่งเป็นดินแดนถิ่นประสูติของพระองค์ ณ พระราชวังจันทน์ โดยในวันที่ 18 มกราคมของทุกปี พสกนิกรชาวจังหวัดพิษณุโลกทุกหมู่เหล่าต่างร่วมสรรเสริญสดุดีวีรกรรมในความเสียสละขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระพี่นางสุพรรณกัลยา ที่ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภายในพระราชวังจันทน์แห่งนี้ในทุก ๆ ปี

          ทั้งนี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ถือเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงคุณอนันต์ต่อแผ่นดินสยาม ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย พระองค์ทรงเป็นวีรกษัตริย์ ที่ทรงพระปรีชาสามารถอย่างล้ำเลิศ มีพระอัจฉริยภาพและฝีพระหัตถ์ในการรบและเชี่ยวชาญในอาวุธทุกชนิด ทรงตรากตรำพระวรกายในการทำศึกสงครามตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ โดยมิได้ว่างเว้น นับตั้งแต่พระชนมายุ 16 พรรษา และทรงทำศึกสงครามต่อเนื่องหลายครั้ง ในวันที่ 18 มกราคม 2135 ทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาจนได้รับชัยชนะ ทำให้พระบรมเดชานุภาพ แผ่ไพศาลไปทั่วปฐพี และปราบปรามหัวเมืองมอญฝ่ายใต้ ได้เมืองตะนาวศรี มะริด ทวาย ต่อมาปี 2138 และ ปี 2142 ทรงยกทัพไปตีเมืองหงสาวดีได้เมืองเมาะลำเลิง และเมืองตองอู จนหัวเมืองไทยใหญ่ทั้งปวงยอมขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรทรงยกทัพไปต่อสู้กับพระเจ้าอังวะ ทรงตั้งค่ายที่เมืองหาง ทรงพระประชวรเป็นพระยอดพิษที่พระนลาฏ และเสด็จสวรรคตที่เมืองหาง เมื่อวันจันทร์ เดือน 6 ขึ้น 8 ค่ำ ปีมะเส็ง พระชันษา 50 พรรษา ตรงกับวันที่ 25 เมษายน 2148 รวมเวลาเสวยราชสมบัติเป็นเวลา 15 ปี ทั้งนี้ แม้พระองค์จะได้เสด็จสวรรคต ล่วงมานานกว่า 420 ปีแล้วก็ตาม แต่พสกนิกรชาวไทยทั้งมวลต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและพระเกียรติคุณของพระองค์ท่านที่ทรงพระปรีชาสามารถกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ต่อสู้ขับไล่อริราชศัตรูของชาติมาตลอดพระชนม์ชีพ เพื่อสร้างความเป็นเอกราชให้กับชาติไทย เป็นมหาวีรกรรมที่เลื่องลือปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ ตราบจนทุกวันนี้ และขอน้อมถวายราชสดุดีแด่พระองค์ท่าน ด้วยความสำนึกในพระเกียรติคุณอันยิ่งใหญ่

แม่ทัพภาคที่4แม่ทัพไพศาล

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า