จากกรณีเจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย ลาดตระเวนพิสูจน์ทราบในพื้นที่พรุป่าหวายรอยต่อ ตำบลสุไหงปาดี อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2564 หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายเข้ามาหลบซ่อนพักพิงในพื้นที่ดังกล่าว ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ตรวจพบที่พักพิงชั่วคราวและของใช้ส่วนตัวของกลุ่มคนร้ายจำนวนหลายรายการ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานได้รวบรวมวัตถุพยานและหลักฐานต่าง ๆ ในพื้นที่ จนกระทั่งสามารถขยายผลนำไปสู่การติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในที่สุด
โดยเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ศาลฎีกา พิพากษายืน ตามศาลอุทธรณ์ภาค 9 “จำคุก 1 ปี 6 เดือน และโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี” นายดือเล๊าะ สะแม จำเลยที่ 2 ความผิดฐานสะสมกำลังพล และอาวุธเพื่อก่อการร้าย พ.ร.บ.อาวุธปืนและวัตถุระเบิดฯ เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ให้การสนับสนุน ในการส่งเสบียงอาหารจริงตามฟ้องโจทก์ ส่วนจำเลยที่ 3 นายดือเลาะ มามะเร็ง ไม่ยื่นฎีกา เนื่องจากพอใจในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว โดยมีการสั่ง “จำคุก 1 ปี 6 เดือน และโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี” ส่วนจำเลยที่ 1 นายรีซน แสละ ให้แยกฟ้องเป็นคดีใหม่ ตามศาลชั้นต้น เนื่องจากให้การปฏิเสธ (ปล่อยตัวจำเลยทั้ง 2 เพื่อรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ อ.981/64) คดีถึงที่สุด
แม่ทัพภาคที่4 แม่ทัพไพศาล
ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า