วันนี้ (24 ตุลาคม 2567) เวลา 13.35 น. ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าวชี้แจงกรณีคนร้ายก่อกวนสร้างสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ โดยการลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนกองร้อยทหารพรานที่ 4515 ขณะออกลาดตระเวน และเดินเท้ากลับหลังจากเข้าพบปะผู้นำหมู่บ้าน ในพื้นที่ บ้านกูจิงลือปะ หมู่ที่ 4 ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส และเหตุคนร้ายปล้นรถยนต์ องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ต่อมาได้นำไปประกอบระเบิดในรถยนต์ เป็นระเบิดคาร์บอมบ์และนำไปจอดไว้บนถนนภายในซอยระหว่างสถานีตำรวจภูธรปะนาเระกับที่่ว่าการอำเภอปะนาเระ หมู่ที่ 2 บ้านนาพร้าว ตำบลปะนาเระ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี แรงระเบิดทำให้อาคารที่ทำการสถานีตำรวจภูธรปะนาเระ และทรัพย์สินของทางราชการ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหาย
โดยเหตุการณ์แรกได้เกิดในพื้นที่ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 15.30 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ลอบวางระเบิด ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนกองร้อยทหารพรานที่ 4515 ซึ่งออกลาดตระเวน และเดินเท้ากลับหลังจากเข้าพบปะผู้นำหมู่บ้าน ในพื้นที่ บ้านกูจิงลือปะ หมู่ที่ 4 ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อเดินทางมาถึง ถนนสายชนบท รอยต่อระหว่าง บ้านกูจิงลือปะ – บ้านบาโงลูโบ๊ะอาแน ซึ่งห่างจากจุดพบปะผู้นำหมู่บ้านประมาณ 150 เมตร โดยคนร้ายนำวัตถุระเบิดระเบิดแสวงเครื่อง ไม่ทราบภาชนะบรรจุและการจุดชนวนไปวางไว้ในท่อลอดบริเวณถนนเส้นดังกล่าว และได้จุดชนวนระเบิดแรงระเบิดทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย ทราบชื่อ คือ
- อส.ทพ. นราธิป สุขแก้ว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216/1 หมู่ที่ 6 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส มีบาดแผลบริเวณนิ้ว ศีรษะ และมีอาการแน่นหน้าอก หูอื้อ
- อส.ทพ. มนตรี กุลราช อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 209/13 หมู่ที่ 1 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส มีแผลถลอก ฟกช้ำ บริเวณแขน สะเอว และมีอาการแน่นหน้าอก หูอื้อ
- อส.ทพ. กองสิงห์ รักประเสริฐศรี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 หมู่ที่ 4 ต.โป่งสา อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน มีอาการแน่นหน้าอก และหูอื้อ
ปัจจุบันผู้บาดเจ็บทั้ง 3 นาย เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และอาการปลอดภัยดีทั้ง 3 นาย
สำหรับเหตุการณ์ต่อมา เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2567 เวลา 23.30 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายประมาณ 10 คน แต่งกายชุดดำปิดบังใบหน้า ปล้นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กค 4052 ปัตตานี ขององค์การบริหารส่วนตำบลน้ำบ่อ หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ขณะเกิดเหตุได้มีลูกจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลน้ำบ่อ เข้าเวรยามอยู่ จำนวน 4 คน โดยพฤติกรรมของคนร้ายได้จับลูกจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลน้ำบ่อ มัดมือมัดเท้าไว้ก่อนทำการปล้นรถยนต์คันดังกล่าวไป
ต่อมาเวลาประมาณ 00.15 น. คนร้าย จำนวน 1 คน ได้นำรถยนต์คันดังกล่าวที่ประกอบระเบิดมาจอดไว้บนถนนภายในซอยระหว่างสถานีตำรวจภูธรปะนาเระกับที่่ว่าการอำเภอปะนาเระ หมู่ที่ 2 บ้านนาพร้าว ตำบลปะนาเระ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี และหลบหนีโดยมีคนร้ายอีก 1 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและป้ายหมายเลขทะเบียน มารับหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุระเบิดขึ้นต่อมา แรงระเบิดทำให้อาคารที่ทำการสถานีตำรวจภูธรปะนาเระ และทรัพย์สินของทางราชการ รถยนต์ จักรยานยนต์ ได้รับความเสียหาย และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด รวมไปถึงชุดพิสูจน์หลักฐานฯ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวบรวมวัตถุพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อขยายผลติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด และขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ระมัดระวังการเดินทางสัญจรและขออภัยในความไม่สะดวกในเส้นทางดังกล่าวมา ณ โอกาสนี้ สำหรับความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ทางด้าน โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เปิดเผยว่า “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่มุ่งประสงค์ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะเร่งติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด รวมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ให้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแลพื้นที่ และร่วมกันแจ้งเบาะแสเมื่อพบเจอสิ่งผิดปกติในพื้นที่ หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิดหรือบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถโทรแจ้งได้ที่หน่วยงานความมั่นคง หรือหมายเลขสายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือสายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061 – 1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”
นอกจากนี้ พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับประเด็นคดีตากใบอีกว่า “สำหรับเหตุการณ์ตากใบนั้น จากการที่ พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ลงพื้นที่พบปะกับผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมานั้น ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สร้างความเข้าใจไปยังทุกภาคส่วน ในเรื่องของเหตุการณ์ตากใบ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และจากผลการสอบสวนของคณะกรรมอิสระ ก็สรุปได้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องของคนกลุ่มหนึ่งพยายามจะก่อเหตุให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งสามารถดูได้จากสรุปผลการสอบสวนของคณะกรรมอิสระ และในห้วงที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งได้ดำเนินการเยียวยาทั้งสภาพจิตใจของพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นญาติของผู้เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ พิการ หรือผู้ที่ถูกควบคุมตัว ซึ่งรัฐบาลได้ทำการเยียวยาไปแล้ว เป็นวงเงินกว่า 641 ล้านบาท จึงขอให้ทุกภาคส่วนมีความเข้าใจว่ารัฐไม่ได้ทอดทิ้ง และปัจจุบันการหลบหนีของผู้ต้องหาทั้ง 14 คน ต้องแจ้งให้ทราบว่า ตรงนี้เป็นปัญหาในเรื่องของเฉพาะบุคคล เพราะผู้ที่ดำเนินการฟ้องนั้น เป็นการฟ้องส่วนบุคคล ซึ่งไม่ได้ฟ้องรัฐ และรัฐเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ต้องหาทั้ง 14 คน หลบหนี ในทางกลับกันรัฐพยายามที่จะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นการดำเนินการในกรอบเวลาที่ค่อนข้างจำกัด จึงต้องขอให้พี่น้องประชาชนเข้าใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ”
ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า