วันนี้ ( 12 เมษายน 2567 ) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า / กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พลตรี กรกฎ ภู่โชติ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วย พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 , พลตำรวจตรี นิตินัย หลังยาหน่าย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, นาย วันชัย เพชรรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักบังคับใช้กฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 และ พันตำรวจเอก พรชัย สุวรรณวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวน 2 กองกำกับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานร่วมแถลงการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โอกาสนี้ พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ระบุว่า นับเป็นความสำเร็จที่ทุกภาคส่วนบูรณาการทำงานร่วมกันด้วยดีตลอดมา สามารถจับกุมเครือข่ายใหญ่ได้ถึง 4 เครือข่าย ของกลางยาไอซ์กว่า 600 กิโลกรัม , ยาเสพติดเกือบล้านเม็ด พร้อมอาวุธปืน 6 กระบอก ,ยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดเบื้องต้น 4 ล้านบาท , จับกุมผู้ต้องหาทั้งสี่เครือข่ายทั้งสิ้น จำนวน 10 คน ยืนยัน ทุกหน่วยงานพร้อมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ตามนโยบายของรัฐบาลเป็นสำคัญ พร้อมย้ำว่าในห้วงนี้ ต้องมีการเฝ้าระวังเข้มงวด คือช่วงเทศกาลวันฮารีรายออีฎิ้ลฟิตริและเทศกาลสงกรานต์ มักพบขบวนการ และผู้ลักลอบใช้โอกาสเวลานี้ขนยาเสพติด พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่บูรณาการทำงานอย่างเป็นระบบที่เป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติการสามารถจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ โดยเฉพาะด่านตรวจต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ทำงานอย่างชาญฉลาด มีไหวพริบ สังเกตสิ่งผิดปกติรวดเร็ว
โดย พลตรี กรกฎ ภู่โชติ เปิดเผยว่าด่านตรวจต่างๆ ทั้ 23 ด่านตรวจ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา ยังคงมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อตรวจสอบยานพาหนะต้องสงสัย, ตรวจสอบการพกพาอาวุธ, ตรวจค้นการขนย้ายสิ่งของผิดกฎหมาย/สิ่งเสพติด และตรวจสอบบุคคลภายนอก ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ เพื่อเป็นการป้องปราม สกัดกั้นการเตรียมการเข้ามาก่อเหตุ และสร้างสถานการณ์จากฝ่ายตรงข้ามในห้วงวันสำคัญทางศาสนา และทุกเทศกาลในพื้นที่ ควบคู่กับการปรับภูมิทัศน์ และปรับให้เป็นจุดอำนวยความสะดวก ในการเดินทางของพี่น้องประชาชน ทั้งในและนอกพื้นที่ เพื่อให้เกิดความสุข เกิดความปลอดภัย แก่ประชาชนทุกคน ทุกเทศกาล ตามนโยบาย แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4
ด้าน พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เปิดเผยว่า พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแหล่งแพร่ระบาด เป็นจุดพักยา และเป็นเส้นทางลำเลียงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ระดมสรรพกำลังขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ทำการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 4 เครือข่าย ดังนี้
เครือข่ายที่ 1
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ได้บูรณาการร่วมกันจับกุมตัว นายสมใจ พลเยี่ยม อายุ 63 ปี ภูมิลำเนาที่อยู่ 87 หมู่ที่ 10 ตำบลโพนสว่าง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
พร้อมของกลาง คือ ยาบ้า 202,000 เม็ด, รถยนต์ 1 คัน,โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซึ่งจับกุมบริเวณริมถนนสาย 41 ตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวังสงขลา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลการจับกุมเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ต่อมาในวันที่ 9 เมษายน 2567 เวลา 16.30 น. ได้ขยายผลการจับกุม นายอิสมะแอ มูซอ อายุ 37 ปี ที่อยู่ 43/2 หมูที่ 2 ตำบลบุดี อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา พร้อมของกลาง ยาบ้า 40,000 เม็ด จับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านกลางนาคอฟฟี่ ถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลบุดี อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ต่อมาในวันเดียวกัน ( 9 เมษายน 2567 ) เวลา 21.36 น. ได้ขยายผลเข้าจับกุมผู้ต้องหาอีก 1 ราย คือ นายสมศักดิ์ วิรัชพงษ์ อายุ 50 ปี ที่อยู่ 73 ถนนเขารูปช้าง ซอย 3 ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พร้อมของกลาง เป็นยาบ้า จำนวน 20,000 เม็ด, โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง, รถยนต์กระบะ 1 คัน สถานที่จับกุมบริเวณจุดตรวจ กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธิน ที่ 1 กรมทหารพรานนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ถนนสาย 42 นราธิวาส-ปัตตานี (ขาขึ้น) ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ทำการตรวจยึดทรัพย์สินเบื้องต้น มูลค่าประมาณ 1,300,000 บาท
เครือข่ายที่ 2
เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 เวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ทุกภาคส่วนได้บูรณาการ ร่วมจับกุมตัวผู้กระทำผิด และตรวจยึดทรัพย์เบื้องต้น มูลค่า 1,400,000 บาท มีของกลางคือ ไฮซ์ 211 กิโลกรัม, ยาบ้า 660,000 เม็ด, โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง,รถยนต์ 2 คัน จับกุม ได้ที่ปากซอยทางเข้าร้านสุไหงโก-ลกวัสดุก่อสร้าง ถนนเลี่ยงเมืองซรายอ หมูที่ 1 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหง -โกลก จังหวัดนราธิวาส ต่อเนื่องด่านตรวจเกาะหม้อแกง ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พบผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย คือ
1.นาย อำพล หนูสงวน อายุ 37 ปี ที่อยู่ หมู่ที่ 6 ตำบลพังลา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
2.นายเดชา หมั้ดอะด้ำ อายุ 42 ปี ที่อยู่ 3 ถนนเทศบาล 8 ซอย 5 ตำบลปาดังเบซาร์
อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
3.นายอับดล หลงอาหลี อายุ 33 ปี ที่อยู่ 19 ถนนเทศบาล 8 ซอย 5 ตำบลปาดังเบซาร์
อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
4.นายปรเมษฐ์ เตียวตระกูล อายุ 26 ปี ที่อยู่ 81 หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านหาร อำเภอบางกล่ำ
จังหวัดสงขลา
เครือข่ายที่ 3
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 เวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรควนมีด
จังหวัดสงขลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมจับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางไอซ์ 470 กิโลกรัม, รถยนต์บรรทุกสิบล้อ 1 คัน,โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง มูลค่ารวมประมาณ 1,200,000 บาท คือ นายซาการียา แวแม้ อายุ 55 ปี ที่อยู่ 9/3 หมู่ที่ 4 ตำบลมะนังดาลำ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี และ นายอาบ๊ะ บือชา อายุ 56 ปี ที่อยู่ 156 หมู่ที่ 1 ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี โดยสามารถจับกุมได้ที่ด่านตรวจถาวรบ้านควนมีด หมู่ที่ 5 ตำบลคลองเปียะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
เครือข่ายที่ 4
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 เวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรนาขยาด
จังหวัดพัทลุง ได้ร่วมจับกุม นายบวรพงศ์ ขำสิงห์ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 181 หมู่ที่ 2 ตำบลพนมวังค์ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 8,000 เม็ด, ไอซ์ 500 กรัม, อาวุธปืน 2 กระบอก, และกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 19 นัด, กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 3 นัด,โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 181 หมู่ที่ 2 ตำบลพนมวังค์ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมดว่า มียาเสพติดและจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ซึ่งกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ส่วนเครือข่ายที่ 4 เพิ่มข้อกล่าวหา กระทำโดยมี หรือใช้อาวุธปืน, ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ที่ นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
สำหรับการดำเนินการเรื่องของการขยายผลทลายเครือข่าย อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีกับบุคคลในเครือข่ายที่ร่วมกระทำผิดและยังไม่ถูกจับกุมต่อไป ในส่วนมาตรการทางด้านทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จะดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ที่จะนำความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมาให้พี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วม เป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติการด้วยการช่วยเเจ้งเบาะเเสผู้ค้า หรือเครือข่ายการกระทำผิด ที่ช่องทางต่าง ๆของหน่วยงานภาครัฐ หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด/อำเภอ หรือที่สายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง
ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า